วันนี้ (3 ธ.ค.2563) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มราษฎร เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการเข้าควบคุมตัว และถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยทั้ง 2 คน เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการ เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงทั้งหมด และขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบ ด้วยกฎหมายทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง
นายพริษฐ์ ระบุว่า ขณะนี้ถูกดำเนินคดีแล้วถึง 27 คดี ใน 17 คดี เกิดขึ้นในช่วงเพียง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 รวมอยู่ด้วย ขณะที่นายภาณุพงศ์ถูกดำเนินคดีแล้ว 6 คดี
โดยสรุปแล้วผมโดน 27 คดี โดยจำแนกว่าเป็นคดีที่ดำเนินคดีในช่วง 3 เดือนนี้ 17 คดี ทุกคดีมาจากการปราศรัย ทั้ง ม.116 ม.112 ล่าสุด มีทำให้เสียทรัพย์ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำให้เสียทรัพย์อย่างไร
ในช่วงท้าย มีการโต้เถียงเสียดสี ระหว่างนายพริษฐ์ และนายภาณุพงศ์ กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีหมายจับหลังให้ข้อกล่าวหาแก่แกนนำทั้งสองแล้วจะนำหมายจับมาจับคุมตัวได้อีกหรือไม่ โดยนายพริษฐ์ ได้ลุกพูดแล้วมีการชี้นิ้ว ระบุว่า หมายจับออกโดยศาลแต่สามารถจับได้รอบเดียว ขอให้เข้าใจใหม่ เราอยู่กันด้วยกฎหมายประมวล ซึ่งไม่ได้อยู่กันด้วย ปอ. 420
โดย น.ส.ปารีณา ได้ลุกขึ้นพูดว่า "อย่าชี้นะคะ อย่าชี้ ที่นี่ไม่ใช่ม็อบนะคะ ที่นี่เป็นห้องประชุมกรรมาธิการ"
นายพริษฐ์ "ที่นี่ก็ไม่ใช่เล้าไก่"
น.ส.ปารีณา : ดิฉันเคยเลี้ยงไก่ และดิฉันก็ไม่ชอบหมูด้วยค่ะ
ขณะเดียวกันมีจังหวะที่ น.ส.ปารีณา สอบถามนายภาณุพงศ์ว่า "ได้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่แล้วหรือไม่" ซึ่งนายภาณุพงศ์ ได้ตอบว่า "เรื่องนี้ท่านถามไปแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ต้องตั้งใจฟังนะครับ"
น.ส.ปารีณา : ดิฉันไม่ถนัดฟังเด็กเลี้ยงแกะ
นายพริษฐ์ : ต้องเป็นเด็กเลี้ยงไก่ใช่ไหม
น.ส.ปารีณา : เลี้ยงไก่แต่ไม่เลี้ยงหมูนะคะ
ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ โดยจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้ร้องเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงด้วยในโอกาสต่อไป