“ธนาธร" เมินตอบปมน้องชายรอดคดีจ่ายสินบนที่ดินทรัพย์สินฯ

วันนี้ (4 ธ.ค.2563) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุดเรื่องขอให้อัยการสูงสุดชี้แจงเหตุผลที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการการทุจริต 4 ไม่ฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีให้เงินเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ชื่อเดิม) 20 ล้านบาท แลกกับการได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาว บริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยไม่ผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ

นายวัชระ ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จึงไม่ฟ้องนายสกุลธร เพราะเกรงว่าอาจจะซ้ำรอยคดีบอส อยู่วิทยา และอยากรู้ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายต่อนายสกุลธรหรือไม่เงินค่าเช่าที่ดินงวดแรก 20 ล้านบาท จากนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจที่ดิน น้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า

ส่วนนายสกุลธร ศาลได้พิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกหลอกลวง จึงได้สั่งดำเนินคดีและตามกฎหมาย นายสกุลธร สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับนายประสิทธิ์ และนายสุรกิจ เพิ่มเติมได้ฐานฉ้อโกงได้ แต่จนถึงขณะนี้ไม่ปรากฏว่านายสกุลธร ไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 2 คน

กังขา น้องชายธนาธร รอดคดี

ทั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงคำพิพากษาจำคุกอดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่ร่วมทุจริตปลอมแปลงเอกสารและนายหน้าค้าที่ดินแล้ว

แต่เหตุ นายสกุลธร ถึงไม่ถูกดำเนินคดีตามความผิดด้วยฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วย จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมต้องไม่เพิกเฉยหรือละเว้นในเรื่องนี้

เช่นเดียวกันกับ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ที่ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊ก ในลักษณะว่า ไม่แปลกใจที่ นายธนาธร ดึงเรื่องสถาบันมาเกี่่ยวข้องกับการเมือง เพราะน้องชาย หวังกรรมสิทธิ์ในที่ดินของสำนักทรัพย์สิน

และกรณีนี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอส ได้พยายามประสานขอทราบข้อเท็จจริงจากนายธนาธร แล้ว แต่ยังไม่สะดวก เนื่องติดภารกิจหาเสียง อบจ.อยู่ ขณะที่เลขานุการส่วนตัวนายธนาธร ย้ำให้ทีมข่าว ถามเรื่องนี้จากนายธนาธรโดยตรง ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องเก่าและนายธนาธร ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของครอบครัว