วานนี้ (6 ธ.ค.2563) กองกำลังนเรศวร โดย ฉก.ร.4 ทำการลาดตะเวนเฝ้าตรวจ ในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณริมแม่น้ำเมย บ.วังตะเคียน ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ตรวจพบกลุ่มคนนั่งเรือยนต์จากฝั่งเมียนมาเข้ามาประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนขอตรวจสอบ แต่กลุ่มดังกล่าวได้กระโดดลงจากเรือหลังเห็นเจ้าหน้าที่ ก่อนว่ายน้ำหลบหนีข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมา
จากการตรวจสอบบนเรือพบหญิง 2 คนทราบชื่อ คือ น.ส. วาฮีดา (ไม่มีนามสกุล) อายุ 15 ปี และ ด.ญ. นาเดีย (ไม่มีนามสกุล) อายุ 12 ปี เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา โดยไม่พบเอกสารหลักฐานในการเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปพร้อมตรวจยึดเรือยนต์ จำนวน 1 ลำ ส่งให้กับ ตม.จว.ตาก ดำเนินการตามกฎหมาย
ภาพ : ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center
ภาพ : ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center
ในวันเดียวกัน ยังตรวจพบชาวไทย 4 คน ลักลอบนั่งเรือยนต์ข้ามแม่น้ำเมยจากฝั่งประเทศเมียนมา เข้ามายังฝั่งประทศไทย และได้หลบหนีด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแอลพาส สีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่จึงติดตามรถยนต์คันดังกล่าว จนมาถึงบริเวณลานจอดรถท่าข้ามที่ 11 บ.ท่าอาจ ม.3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พบกลุ่มบุคคลชาวไทย ลักษณะท่าทางมีพิรุธ เมื่อคนขับรถยนต์สังเกตเห็น เจ้าหน้าที่จึงขับหลบหนีไป
จากการสอบถามบุคคลทั้งหมดให้การว่า ได้ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจริง จึงได้ควบคุมตัว ส่งให้กับตำรวจ สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ : ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center
ภาพ : ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center
สำหรับบุคคลที่ทำการจับกุมทั้งหมด ได้ดำเนินการส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่โรงพยาบาลแม่สอด ตามมาตรการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งนี้ พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ได้กำชับให้ทุกหน่วยที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ได้เฝ้าระวังการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายของกลุ่มแรงงานต่างด้าว และชาวไทย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวดในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่จะลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย