อุดรฯ ผวา! พบชายก่อเหตุใช้มีดทำร้ายสาวแกร็บกลางถนน

อาชญากรรม
13 ธ.ค. 63
09:23
488
Logo Thai PBS
อุดรฯ ผวา! พบชายก่อเหตุใช้มีดทำร้ายสาวแกร็บกลางถนน
ตำรวจเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดซอยกิจขยัน ถ.อุดรดุษฎี เทศบาลนครอุดรธานี หลังเกิดเหตุชายใช้อาวุธมีดดักทำร้ายพนักงานหญิงขี่รถส่งอาหารจนบาดเจ็บเมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี ยืนยันไม่ใช่พฤติกรรมเลียนแบบ

วานนี้ (12 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุชายใช้มีดแทงหญิงขี่รถจักรยานยนต์ส่งอาหาร ภายในซอยกิจขยัน ถ.อุดรดุษฎี เทศบาลนครอุดรธานี ผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 38 ปี อาชีพพนักงานส่งอาหาร เบื้องต้น พบหัวไหล่ขวาบาดเจ็บ เป็นแผลยาว 2 ซม.


ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก และจุดเกิดเหตุค่อนข้างมืดไม่มีไฟส่องสว่าง โดยค่ำวานนี้ผู้เสียหายกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปส่งอาหารตามออเดอร์ และตัดสินใจใช้เส้นทางลัดเพราะเป็นคนในพื้นที่จึงรู้เส้นทางดี แต่เมื่อขี่มาถึงจุดเกิดเหตุพบชายรูปร่างผอมสูง ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง แล้วข้ามถนนมาทุบเข้าที่ไหล่ ผู้เสียหายจึงรีบบิดคันเร่งมุ่งไปด้านหน้า โชคดีจังหวะนั้นมีรถเก๋งขับมาพอดี ไฟจากรถจึงทำให้ผู้ก่อเหตุตกใจหนีไป


หลังรับแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว ด้ามหักหล่นบนถนน เบื้องต้นคาดว่า เป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ใกล้กันพบขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ขณะนี้เก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนรูปพรรณสัษฐานผู้ก่อเหตุ เป็นชายรูปร่างผอม สูง


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างจากกรณีชายใช้มีดไล่แทงผู้หญิงกลางเมืองอุดรธานรีจนเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 6 คน เพียง 1 สัปดาห์ ทำให้บางคนตั้งข้อสังเกตุว่า อาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี ระบุว่า แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นห่างจากกรณีชายใช้มีดไล่แทงผู้หญิงกลางเมืองอุดรธานรีจนเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 6 คน เพียง 1 สัปดาห์ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่พฤติกรรมเลียแบบ เพราะเหตุการณ์นี้ผู้ก่อเหตุไม่น่าจะทราบว่า ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง เนื่องจากช่วงที่ดักทำร้าย ผู้เสียหายสวมหมวกกันน็อกอยู่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะหวังอย่างอื่นมากกว่าเลียนแบบ


ขณะที่เช้าวันนี้ (13 ธ.ค.2563) ตำรวจจะลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งบริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครอุดรธานีติดตั้งอยู่ และหากประชาชนคนใดที่ขับรถผ่านมาในช่วงนั้น ตำรวจขอให้ไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามผู้ก่อเหตุ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง