วันนี้ (14 ธ.ค.2563) นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ธ.ค.2563 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.2563 จากระดับ 58.50 จุด มาอยู่ที่ระดับ 50.81 จุด ลดลง 7.69 จุด หรือคิดเป็น 13.14% โดยมีปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับลดลงมาจากการพัฒนา และการผลิตวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัว รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น และแรงขายของกองทุน
คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน ธ.ค.2563 จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 360 ตัวอย่าง พบว่า 37.50% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ขณะที่อีก 35.56% คาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้ และ 26.94% ยังไม่ซื้อทองคำในเดือน ธ.ค.2563
ผู้ค้าทอง 5 รายเชื่อราคาทองลง
สรุปกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 12 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ธ.ค.2563 จะลดลง มีจำนวน 5 ราย และคาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน พ.ย.2563 มีจำนวน 4 ราย ส่วนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น มีจำนวน 3 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน ธ.ค.2563 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,719 - 1,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 24,900 - 27,200 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 29.92 - 30.76 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แนะเน้นทำกำไรจากราคาแกว่งตัว
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า การลงทุนทองคำในเดือน ธ.ค.2563 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่แนะนำให้รอดูการสร้างฐานของราคาทอง หากยังคงรักษาระดับไว้อยู่เหนือแนวรับที่บริเวณ 1,755 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือน ก.ค.2563 ได้อย่างแข็งแกร่ง ในระยะยาวคาดว่าจะยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวกไว้ได้
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายทองคำในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2563 อาจเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวปลายปี ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมักจะแคบลงหลังช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงเทศกาลปีใหม่ จึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคาทอง