"ชลน่าน" ยอมรับหาก กมธ.ฝ่ายค้านแพ้โหวต ยังเดินหน้าต่อ

การเมือง
17 ธ.ค. 63
10:32
154
Logo Thai PBS
"ชลน่าน" ยอมรับหาก กมธ.ฝ่ายค้านแพ้โหวต ยังเดินหน้าต่อ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เตรียมขอสงวนคำแปรญัตติในฐานะกรรมาธิการ เปิดให้แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 - 2 ได้ หากการแก้นั้นจะทำให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

วันนี้ (17 ธ.ค.2563) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กรรมาธิการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ได้ขอสงวนความเห็นส่วนตัวในฐานะกรรมาธิการ ขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจากเดิมที่ร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายค้านกำหนดว่า ห้ามแตะหมวด 1 และหมวด 2 เว้นแต่เป็นการแก้เพิ่มเติมที่จะทำให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยไม่ได้เป็นมติพรรคเพื่อไทย หรือพรรคฝ่ายค้าน

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวได้ขออนุญาตพรรคเพื่อไทยขอสงวนความเห็นไว้และจะเสนอในที่ประชุมกรรมาธิการ หากกรรมาธิการเห็นด้วยก็จะเป็นการเปิดกว้าง เช่น หากต้องการเพิ่มหมวดการกระจายอำนาจอยู่ในหมวด 1 บททั่วไป สามารถเพิ่มเติมมาตราที่ 6 - 7 ได้ หากยึดแบบเดิมว่าห้าม ส.ส.ร.และชี้ว่าจะเป็นการปิดกั้น และมีพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรค ไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ตามร่างของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน และใช้สิทธิเสนอความเห็นและแปรญัตติขอแก้ไขร่างของรัฐบาล

"รัฐบาล - ฝ่ายค้าน" วางกรอบทำงาน ส.ส.ร.

ขณะที่ประเด็นกรอบการทำงานของ ส.ส.ร.ตามร่างของพรรคร่วมรัฐบาลที่กำหนดไว้ 240 วัน แต่ร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านกำหนดไว้ 120 วัน ฝ่ายค้านยืนตามร่างของพรรคเพื่อไทย หากแพ้โหวตยังมีสิทธิสงวนความเห็นคำแปรญัตติได้ เว้นแต่ที่ประชุมจะหาจุดเหมาะสมร่วมกันได้ โดยพิจารณาบริบทสถานการณ์กับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติมาประกอบด้วย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในประเด็นที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลยังเห็นต่างและต้องมีการโหวตลงมติ ในกรณีที่ฝ่ายค้านแพ้โหวต หากพอที่จะรับได้ก็จะเข้าสู่เป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านกำหนดเป้าหมายสำคัญ 2 เรื่อง คือต้องได้ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมฉบับปี 2560 แก้มาตรา 256 และตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างฉบับใหม่ และอีกเป้าหมาย คือต้องการให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทางตรงทั้ง 200 คน มีความเป็นอิสระในการทำงาน ซึ่งขณะนี้เสียงกรรมาธิการส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง