วันนี้ (23 ธ.ค.2563) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก วันที่ 23 ธ.ค.นี้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทะลุ 78 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) ทั่วโลกติดเพิ่ม 669,068 คน รวมแล้วตอนนี้ 78,245,210 คน ตายเพิ่มอีก 14,450 คน ยอดตายรวม 1,720,867 คน
- สหรัฐอเมริกา ติดเชิ้อเพิ่ม 237,018 คน รวม 18,622,144 คน ตายเพิ่ม 3,775 คน ยอดตายรวม 329,776 คน
- อินเดีย ติดเพิ่ม 23,881 คน รวม 10,099,303 คน
- บราซิล ติดเพิ่ม 55,202 คน รวม 7,318,821 คน
- รัสเซีย ติดเพิ่ม 28,776 คน รวม 2,906,503 คน
- ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 11,795 คน รวม 2,490,946 คน
อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และอาร์เจนตินา ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน ส่วนเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น
แถบสแกนดิเนเวีย รอบทะเลบอลติก และแถบยูเรเชีย ยังไม่ดีขึ้น ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เมียนมา และเกาหลีใต้ ติดเพิ่มเฉียดพัน ส่วนจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่เวียดนาม ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
สถานการณ์ในเมียนมา ติดเพิ่มขึ้นอีก 964 คน ตายเพิ่มอีก 19 คน ตอนนี้ยอดรวม 117,946 คน ตายไป 2,484 คน อัตราตายตอนนี้ 2.1%
ช่วงนี้มีหลายคนถามถึงเรื่องสหราชอาณาจักร ที่กำลังเผชิญการระบาดหนักจนควบคุมไม่ได้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ของไวรัส
ข้อมูลปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าไวรัสที่กลายพันธุ์นี้ จัดอยู่ในสายพันธุ์ B1.1.7 โดยมีอีกชื่อที่เรียกว่า VUI-202012/01 ซึ่งจริงๆ แล้ว VUI ย่อมาจาก "Variant under investigation" แปลง่ายๆ คือ เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่น่ากังวล และอยู่ระหว่างการศึกษาตัวแรกของเดือนธ.ค.นั่นเอง
อ่านข่าวเพิ่ม 6 วันเส้นทางแพร่ COVID-19 ก้าวกระโดด 1,145 คน 16 จังหวัด
ไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์
ลักษณะของการกลายพันธุ์นี้ มีหลายแบบ โดยเค้าพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของกรดอมิโน โดยฮิสติดีนตำแหน่งที่ 69 และวาลีนตำแหน่งที่ 70 นั้นหายไป เรียกว่า ΔH69/ΔV70 โดยมักเกิดร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของกรดอมิโนตำแหน่งอื่นที่ส่งผลต่อส่วนหนามของไวรัสที่ใช้จับกับเซลล์มนุษย์ ได้แก่ การมีไทโรซีนมาแทนแอสพาราจีน ที่ตำแหน่ง 501 (N501Y), การมีไลซีนมาแทนแอสพาราจีน ที่ตำแหน่ง 439 (N439K), และการมีฟีนิลอลานีนมาแทนไทโรซีน ที่ตำแหน่ง 453 (Y453F)
หลายคนอ่านแล้วงง ก็ไม่ต้องไปสนใจรายละเอียดเชิงเทคนิค แต่เอาเป็นว่าการกลายพันธุ์ในลักษณะต่างๆข้างต้น มีการวิจัยในห้องทดลองแล้ว พบว่าบางแบบนั้น ทำให้ไวรัสแพร่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม มีตั้งแต่เร็วขึ้น 70% ไปจน 2 เท่าของของเดิม
อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพื่อยืนยันต่อไปว่า ในความเป็นจริงแล้วจะแพร่เชื้อไวขึ้นเท่าใด ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะบอกว่าไวรัสกลายพันธุ์ดังกล่าว จะทำให้อัตราตายมากขึ้นไหม และจะดื้อต่อวัคซีนที่เรากำลังใช้อยู่หรือไม่
ตอนนี้หลายประเทศจึงเริ่มแบน ไม่ให้คนเดินทางจากสหราชอาณาจักรเข้าสู่ประเทศ เพราะกลัวเรื่องการนำเชื้อกลายพันธุ์จะเข้ามาระบาด ต้องให้กำลังใจทางสหราชอาณาจักรให้มีสถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว
ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า ไวรัสโรค COVID-19 นี้ ไม่ว่าจะกลายพันธุ์
อย่างไรก็ตาม หลักในการป้องกันคือ การใส่หน้ากาก การอยู่ห่างจากคนอื่น พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัด และการรักษาสุขอนามัยส่วนตัว เช่น การล้างมือ ไม่แชร์ของกินของใช้ หากทำได้เคร่งครัด โอกาสติดเชื้อแพร่เชื้อก็น้อยลงมาก ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างพร้อมเพรียง
ส่วนไทย สถานการณ์ตอนนี้วิกฤต มีเวลาเพียง 4 สัปดาห์ ที่ต้องคุมการระบาดให้ได้เพราะมีโอกาสระบาดทวีคูณยากแก่การจัดการ และจะทำให้จำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงสุดไปถึง 5 เท่าของระลอกแรก
และใช้เวลาสู้ยืดเยื้อยาวไปถึง 2 เท่า หรือ 3 เดือนจะคุมได้ จำเป็นต้องดำเนินมาตรการเข้มข้นมากกว่านี้ ย้ำอีกครั้ง...ตอนนี้วิกฤติ ขอให้เราทุกคนรักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอใส่หน้ากากเสมอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่ค้าอาหารทะเล "อยุธยา" ติดโควิด 2 คน