กทม.สั่งปิด "437 โรงเรียน - ทำงานที่บ้าน" หนี COVID-19

สังคม
23 ธ.ค. 63
17:34
9,142
Logo Thai PBS
กทม.สั่งปิด "437 โรงเรียน - ทำงานที่บ้าน" หนี COVID-19
โฆษก กทม.แถลงมติที่ประชุม ศบค. กทม. สั่งปิดโรงเรียนสังกัด กทม. 437 โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก 292 แห่ง พร้อมเป็นหน่วยงานตัวอย่าง Work from home ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป หวังป้องกันระบาดระลอกใหม่ ยืนยัน ยังไม่ล็อกดาวน์

วันนี้ (23 ธ.ค.2563) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงมติการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า การระบาดระลอกนี้มีเวลา 4 สัปดาห์จะตัดสินว่าจะควบคุมโรคได้หรือไม่ จากสถิติในการระบาดระลอก 2 จำนวน 75 ประเทศทั่วโลก พบ 88% ระบาดซ้ำและรุนแรงกว่าเดิมถึง 5 เท่า แต่หากในเวลานี้ กทม.สามารถควบคุมโรคได้จะทำให้ทิศทางการแพร่ระบาดเปลี่ยนไป

กทม.ยืนยัน การล็อกดาวน์จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ขณะนี้ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะล็อกดาวน์ไหม ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าจะหนักหรือเบามากขึ้นอย่างไร

ดังนั้น ผู้ว่าฯ กทม. และคณะกรรมการ มีมติปิดโรงเรียนสังกัด กทม. 437 โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก 292 แห่ง ยืนยันไม่ใช่การล็อกดาวน์ แต่ต้องการให้คนหยุด 11 วัน เพื่อลดกิจกรรมป้องกัน COVID-19 หยุดตั้งแต่พรุ่งนี้ และเปิดหลังปีใหม่ และให้หน่วยงาน กทม. ยกเว้นหน่วยงานทีบริการกับประชาชน เช่น ทำบัตรประชาชน เริ่มทำงานที่บ้าน (Work from home)

เราจะทำให้หน่วยงานของเราเป็นตัวอย่างในการ Work from home ให้เขาทำงานที่บ้านตั้งแต่พรุ่งนี้ คล้ายที่ทำในช่วงต้นปี กทม.ขอเชิญชวนหน่วยงานรัฐและ เอกชนให้ความร่วมมือลดปริมาณคนที่มาทำงาน


นอกจากนี้ กทม.ยังได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังในสถานบริการทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะ โดยให้บริการเป็นร้านอาหารได้ ส่วนตลาด ได้ควบคุมสถานที่ให้มีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น จำกัดทางเข้า - ออก สวมหน้ากากเข้าใช้บริการ ขณะที่สนามมวย กทม.ได้มีมาตรการควบคุมดูแลด้วย โดยสนามมวยแต่ละแห่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ประกาศไม่ให้มีการชกจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น พร้อมห้ามแรงงานข้ามชาติรวมตัวในสวนสาธารณะ ตลาด และศาสนสถาน 

กทม.จ่อปรับวิธีตรวจเชิงรุกด้วยน้ำลาย 

ขณะเดียวกัน กทม.ได้เร่งค้นหาเชิงรุกใน ตลาดสำคัญทั่ว กทม. โดยลงพื้นที่แล้วกว่า 100 แห่ง โดยใช้การตรวจ RT-PCR ซึ่งยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่จะเปลี่ยนรูปแบบการตรวจใหม่ โดยใช้น้ำลายแทนการสวอป โดยนำคนมารวมกัน 5 คน แล้วตรวจครั้งเดียว หากพบเป็นบวก จึงจะไปติดตามให้มาทำ RT-PCR เพิ่มเติม ซึ่งกระบวนการนี้จะใช้งบฯ เท่าเดิม แต่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 5 เท่า จัดให้ใช้สำหรับการตรวจในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ


เช่นเดียวกับไซต์ก่อสร้างที่ กทม.เคยลงพื้นที่ตรวจแล้วช่วงต้นปี 17,000 ตัวอย่าง แต่ครั้งนี้จะตรวจใหม่อีกครั้ง พร้อมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ในเขตใกล้ จ.สมุทรสาคร เช่น บางขุนเทียน บางบอน โดยวันนี้ได้มีโมบายแล็บ และรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน จนพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 บางส่วนแล้ว

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือให้หน่วยงานรัฐไม่จัดกิจกรรมปีใหม่หรือรวมตัวคนในเวลานี้ หากจะจัดแล้วมีคนมารวมตัวมากกว่า 300 คน ต้องขออนุญาตกับสำนักอนามัย เพื่อพิจารณา แต่หากต่ำกว่า 300 คน เช่น จัดในครอบครัว หรือรวมญาติ สามารถทำได้ แต่ต้องดำเนินตามมาตรการสาธารณสุข

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง