เข้มวันขอบคุณพระเจ้า "อังกฤษ" เผชิญ COVID กลายพันธุ์ 2 ชนิด

ต่างประเทศ
24 ธ.ค. 63
19:26
414
Logo Thai PBS
เข้มวันขอบคุณพระเจ้า "อังกฤษ" เผชิญ COVID กลายพันธุ์ 2 ชนิด
อังกฤษพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่จากแอฟริกาใต้ สร้างความกังวลเกี่ยวกับการระบาดเป็นวงกว้าง ผลการศึกษาชี้เชื้อกลายพันธุ์ของอังกฤษกับแอฟริกาใต้ มีความใกล้เคียงกันจากการกลายพันธุ์บริเวณโปรตีนส่วนหนามส่งผลให้แพร่ระบาดได้ง่ายมากขึ้น

วันนี้ (24 ธ.ค.2563) คริสต์มาสนี้เป็นช่วงเวลาหนักหน่วงของอังกฤษ หลังการระบาดของ COVID-19 มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลเพิ่งยกระดับมาตรการป้องกันโรคในกรุงลอนดอนและภาคตะวันออกเป็นระดับสูงสุด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากการระบาดของเชื้อก่อโรค COVID-19 กลายพันธุ์ชนิด B.1.1.7 ที่แพร่กระจายเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นถึง 70% ก่อนที่อังกฤษจะพบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์อีกชนิดจากแอฟริกาใต้เมื่อคืนที่ผ่านมา ยิ่งสร้างความกังวลใจมากขึ้นอีก


เมื่อแกะรอยเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่จากแอฟริกา จากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์จากแอฟริกา 2 คนเป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อที่มาจากแอฟริกาใต้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อังกฤษสั่งกักตัวผู้ติดเชื้อใหม่ และระงับการเดินทางจากแอฟริกาใต้ทันที ทั้งยังสั่งให้ผู้มีประวัติเดินทางไปแอฟริกาใต้ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และผู้สัมผัสใกล้ชิดกักตัวทันที

เทียบเชื้อกลายพันธุ์ 2 ชนิดระบาดอังกฤษ

แม้ว่าเชื้อกลายพันธุ์ในอังกฤษและจากแอฟริกาจะเป็นคนละชนิด แต่มีจุดร่วม คือ การกลายพันธุ์บริเวณโปรตีนส่วนหนาม การกลายพันธุ์ในจุดนี้จะทำให้เชื้อไวรัสเกาะกับเซลล์ของมนุษย์ได้ดีขึ้นและเอื้อต่อการแพร่เชื้อเป็นวงกว้าง แต่ประเด็นนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ทั้ง 2 ชนิดมีอาการรุนแรงมากขึ้นด้วยหรือไม่ แต่การกลายพันธุ์ของไวรัสเป็นกลไกการเอาตัวรอดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเดือนละประมาณ 1-2 ตำแหน่ง ความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ทำให้อังกฤษเตรียมขยายพื้นที่ควบคุมโรคอย่างเข้มงวดในวันที่ 26 ธ.ค.นี้


ขณะที่หลายประเทศยังคงบังคับใช้มาตรการระงับการเดินทางจากอังกฤษและแอฟริกาใต้เพื่อป้องกันโรคด้วย เนื่องจากช่วงเทศกาลคริสต์มาสถือเป็นช่วงเวลาสุ่มเสี่ยงอยู่แล้วยิ่งพบเชื้อกลายพันธุ์ก็เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเหมือนรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ จะใช้ไม้แข็งให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกักตัว 14 วัน เพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ นอกจากนี้ อาจได้รับบทเรียนมาจากช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าเพราะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งสูง

จับตาวันขอบคุณพระเจ้าหวั่นระบาดซ้ำ

เทศกาลขอบคุณพระเจ้าถือเป็นหนึ่งในตัวเร่งให้การระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงมากขึ้น นักระบาดวิทยา เชื่อว่า ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเชื่อมโยงกับการรวมตัวของครอบครัวในช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้ผู้เชี่ยวชาญรณรงค์ให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน ในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

ผศ.นพ.ปกรัฐ หังสสูต หัวหน้าสาขาวิชาไวรัสวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ส่วนใหญ่เมื่อไวรัสมาจากสัตว์สู่คนแล้ว ไวรัสมักจะปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้ดีขึ้น อ่อนแรงน้อยลง แต่แพร่ได้มากขึ้น แต่ประเด็นว่าจะส่งผลกระทบต่อวัคซีนต้องรอในอนาคต ขณะนี้ยังไม่ควรตระหนกเกินไป สิ่งสำคัญคือ การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ เพื่อลดการกลายพันธุ์ของไวรัสได้มากที่สุด

 

ย้อนกลับไปในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้ามีชาวอเมริกันใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศมากกว่า 3 ล้านคน แม้ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปมาหาสู่กันเพื่อป้องกันโรค หน่วยงานความปลอดภัยด้านการคมนาคมรวบรวมสถิติผู้ใช้บริการผ่านจุดตรวจความปลอดภัยตามสนามบินต่างๆ ตัวเลขคนเดินทางมากที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา แม้ว่าจะน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เกือบเท่าตัว


ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการระบาดของ COVID-19 มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นหลังวันขอบคุณพระเจ้า 26 พ.ย.โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตรายวัน มีไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ติดต่อกัน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ย.มาจนถึงวันนี้ ขณะเดียวกันจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจนอาจทำให้โรงพยาบาล ในหลายรัฐประสบปัญหาผู้ป่วยล้นได้ ผู้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นถึง 156% ตั้งแต่ช่วงเทศกาลถึงวันที่ 17 ธ.ค. และบทเรียนจากช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าทำให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายในช่วงสิ้นปี เนื่องจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคทำได้มากที่สุดเพียงให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวต่อประชาชนเท่านั้น

ทั้งนี้ การจัดการของสหรัฐฯ ให้อำนาจแต่ละรัฐเป็นผู้รับผิดชอบทำให้มาตรการไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คงต้องติดตามว่าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้จะมีชาวอเมริกันเดินทางกลับภูมิลำเนามากเท่าใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง