ศาลยกฟ้อง 9 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุมนุมสกายวอล์ก

การเมือง
25 ธ.ค. 63
11:45
2,566
Logo Thai PBS
ศาลยกฟ้อง 9 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุมนุมสกายวอล์ก
ศาลอาญายกฟ้อง 9 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุมนุมสกายวอล์ก ชี้ปราศรัยรุนแรง แต่ไม่เป็นการยุยงปลุกปั่นจนเกิดความไม่สงบ พยานโจทก์น้ำหนักไม่เพียงพอ

วันนี้ (25 ธ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำพิพากษาคดี 9 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด MBK39 เป็นจำเลยกรณีชุมนุมที่สกายวอล์กแยกปทุมวันหน้าห้างสรรพสินค้า MBK Center เมื่อวันที่ 27 ม.ค.61 ถูกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยง ปลุกปั่น โดยมี นายวีระ สมความคิด, นายรังสิมันต์ โรม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา (โบว์) , นายอานนท์ นำภา, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ, นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) เป็นจำเลยรวม 9 คน

นายรังสิมันต์ โรม เดินทางมาถึงศาลพร้อมเปิดเผยว่า การถูกดำเนินคดี ม.116 กระทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากกรณีจัดการชุมนุมในระยะ 150 ม.จากเขตพระราชฐาน ยืนยันว่า การจัดกิจกรรมชุมนุมครั้งนั้นจัดขึ้นบนสกายวอร์กบริเวณหอศิลป์กรุงเทพฯ ซึ่งทางผู้ชุมนุมวัดระยะแล้วว่าเกิน 150 ม.ในแนวทแยงแต่เจ้าหน้าตำรวจอ้างว่าต้องวัดแนวระนาบและไม่ถึงระยะ 150 ม. โดยเจตนาต้องการให้มีการเลือกตั้งให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยไม่ควรจะมีความผิดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่หากเป็นข่าวร้ายก็ไม่กลัว ต้องรอดูว่าจะเข้าข่ายถูกตัดสิทธิทาง ส.ส.หรือไม่

 

ล่าสุดศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะจัดการชุมนุมและกล่าวปราศรัยให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. แต่ก็ไม่ถึงขนาดกล่าวยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร ประกอบกับไม่ได้เป็นการกระทำที่นอกเหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด ดังนั้นแม้ถ้อยคำปราศรัยมีจะมีถ้อยคำไม่สุภาพ ไม่เหมาะสม เกินเลยไปบ้าง แต่ไม่เป็นการยุยงปลุกปั่นจนเกิดความไม่สงบ พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงมีน้ำหนักไม่เพียงพอรับฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 9 คนร่วมกันกระทำความผิด พิพากษายกฟ้อง

 

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว เปิดเผยว่า ศาลได้ตัดสินแล้วการชุมนุมครั้งนั้นไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทั้ง 2 ข้อหา เนื่องจากเรียกร้องเรื่องโดยสงบตามสิทธิและไม่มีเจตนาเข้าใกล้รั้วพระราชฐาน ขณะที่ตำรวจติดป้ายบอกพิกัดแสดงรัศมีให้ชัดเจน

ฝากให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทบทวนบทบาทหน้าที่ว่าจะไล่ฟ้องประชาชนเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ศาลจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงและยกฟ้องไปในที่สุด ขออย่าใช้กฎหมายเป็นเครืองมือกลั่นแกล้งประชาชนหากไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ส่วนอัยการขอให้ใช้ดุลยพินิจอย่างเป็นอิสระโดยแท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง