วันนี้ (27 ธ.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 103 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 94 คน พบใน State Quarantine 8 คน แรงงานข้ามชาติ (ตรวจค้นหาเชิงรุก) 18 คน รวมผู้ป่วยยืนยัน 6,141 คน หายป่วยแล้ว 4,161 คน เสียชีวิตสะสม 60 คน รวมติดเชื้อภายในประเทศ 4,173 คน และติดเชื้อในแรงงานข้ามชาติ (จากการตรวจเชิงรุก) 1,356 คน ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 1,968 คน และสถานที่กักกันที่รัฐจัดใหม่ 1,435 คน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กรณีที่ผู้ติดเชื้อ COVID-19 เชื่อมโยงสมุทรสาคร ตั้งแต่รายที่ 10-94 คนพบกระจายใน 38 จังหวัด ดังนี้ พบว่าใน กทม.มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม 16 คน กระบี่ 2 คน นครสวรรค์ 1 คน นนทบุรี 2 นราธิวาส 1 คน ปทุมธานี 1 คน ราชบุรี 3 คน สุรินทร์ 1 คน เพชรบุรี 5 คน ขอนแก่น 1 คน นครปฐม 11 คน ตาก 3 คน สมุทรสงคราม 1 คน ระยอง 8 คน และรอรายงานเพิ่ม สระบุรี 1 คนขณะนี้ยังมีตัวเลขที่รอการยืนยันอีก เช่น นครนายก 1 คน สุโขทัย 1 คน
ส่วนเคสระยองที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 ไปแล้ว 36 คน ยังรอรายงานอีก 49 คน หากผลออกในช่วงบ่าย จังหวัดจะรายงานเพิ่มเติม เท่ากับขณะนี้ระยองมีข้อมูล 36+49 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงจากสมุทรสาคร มีรายงานแล้ว 38 จังหวัดที่มีรายงาน และยังมีตัวเลขที่รอการยืนยันอีก เช่น นครนายก 1 คน สุโขทัย 1 คน ซึ่งผู้ติดเชื้ออาจกระจายไปมากขึ้น เนื่องจากมีการเดินทาง จึงขอให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือและเช็กอินไทยชนะ หากมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับเคส จ.สุโขทัย เป็นหญิง 41 ปี ไม่แสดงอาการ โดยอาศัยในจ.สมุทรสาคร และกลับไป จ.สุโขทัย ในวันที่ 25 ธ.ค. ซึ่งได้ส่งตรวจและผลออกมาในวันที่ 26 ธ.ค.ว่าติดเชื้อ
รอประกาศระยองเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
โฆษก ศบค.กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนในพื้นที่ จ.ระยองพบการลักลอบเล่นพนัน ศบค.ต้องมีแผนจัดการอย่างไร ว่า ทางระยองประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดอีกจังหวัด เหมือนที่ จ.สมุทรสาคร แต่อาจจปิดบางพื้นที่หรือทั้งจังหวัด ผู้ว่าราชการระยองจะเป็นผู้พิจารณา เรื่องนี้ถึงแม้จะบอกไม่เป็นเรื่องใหญ่เล่นกันนิดหน่อย แต่เมื่อมีคนป่วยจะทำให้หลายคนเดือดร้อนด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่ลอบเล่นการพนัน เกิดความล่าช้ามาจากผู้ติดเชื้อไม่ยอมให้ข้อมูล เพราะเป็นธุรกิจสีเทา เหมือนเหตุการณ์ในภาคเหนือ เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่มีการระบาดรอบใหม่ก็มาจากธุรกิจสีเทาเช่นกัน
เมื่อถามว่าประเมินรอบนี้หนักกว่ารอบแรกหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตัวเลขเป็นตัวบอกได้อยู่แล้ว ถือว่าหนักกว่าขึ้นหลักพันในช่วงไม่กี่วัน
ยอมรับว่าหนักกว่า แต่เรามีความรู้มากกว่าเดิมในการเตรียมความพร้อม และตอนนี้ขอให้ทุกคนใช้หน้ากากในการป้องกันตัวเอง 100 % และหน้ากากมีการผลิต 4-5 ล้านชิ้นต่อวันและราคาไม่เกิน 2.50 บาท
ข้อกำหนด 8 ข้อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รับมือ
ขณะที่ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ยังเผยแพร่ประกาศของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 8 ข้อเพื่อรับมือสถานการณ์ COVID-19 ดังนี้
- ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง
- ให้อำนาจผู้ว่าฯ ปิดสถานที่เสี่ยง
- ห้ามชุมนุมในสถานที่แออัด
- ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
- ให้บังคับใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
- ให้ ศปก. ศบค. เป็นหน่วยปฏิบัติการขับเคลื่อนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ของผู้ว่าฯ / กทม. ให้ดำเนินการตามศบค.กำหนด
- ประกาศ/คำสั่งโดยผู้ว่าฯ/ กทม. ที่ออกก่อนข้อกำหนดฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อนุทิน" เตือนโรงพยาบาลปฏิเสธตรวจ COVID-19 ผิดกฎหมาย
นายกฯ แนะโหลดแอป “หมอชนะ” ประเมิน COVID-19
กต.ชี้แรงงานไทยเกาหลีใต้ติด COVID-19 รวม 67 คน