วันนี้ (28 ธ.ค.2563) ร.อ.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้รับการแจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของสายการบิน ที่ทำการบิน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการผู้โดยสาร
จากไทม์ไลน์พบว่า วันที่ 23 ธ.ค.2563 เริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น แต่ไม่ได้แสดงอาการอื่น ๆ ต่อมาในวันที่ 24 ธ.ค.2563 จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลและในวันที่ 25 ธ.ค.2563 ผลการตรวจเป็นบวก และขณะนี้เข้าสู่กระบวนการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ร.อ.ท.สัมพันธ์ ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ประสานกับสายการบินและได้ดูกล้อง CCTV พบว่า ตลอดเวลาที่นักศึกษาฝึกงานคนดังกล่าวปฏิบัติงานได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ส่วนผู้สัมผัสโดยตรงที่มีความเสี่ยงสูง ได้ดำเนินการกักตัวตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2563 และให้เข้ารับการประเมินความเสี่ยงที่โรงพยาบาลแล้ว เบื้องต้น พบว่ามีผู้ที่มีความเสี่ยง 29 คน โดยได้ให้กักตัวและตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ผลออกเพียง 3 คน คาดว่าวันนี้จะทราบผล ทั้งนี้ กรณีผู้ที่มีความเสี่ยงและพบว่าติดเชื้อจะดำเนินการรักษา ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อจะให้กักตัวจนครบ 14 วัน
ได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 มาโดยตลอด เช่น การทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ตามจุดต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสารทุกๆ ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากและใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ และเมื่อตรวจอุณหภูมิผ่านเทอร์โมสแกน ต้องไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส หากเกินจะแจ้งกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมามีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งที่ตรวจวัดอุณหภูมิไม่ผ่านและไม่ได้ขึ้นเครื่อง โดยสายการบินมีมาตรการช่วยเหลือ โดยจะเก็บบุคกิ้งไว้จนกว่ามีผลตรวจว่าไม่ติดอย่างน้อย 14 วัน หรือหากตรวจและทราบผลทันทีว่าผ่านสามารถขึ้นเครื่องได้
ส่วนจำนวนผู้โดยสารก่อนหน้านี้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้โดยสารอย่างน้อยวันละ 60,000 คน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์การระบาด COVID-19 รอบใหม่ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสาร เหลือเพียงวันละ 37,000 คน พร้อมยืนยันว่าการยกเลิกเที่ยวบินของผู้โดยสารไม่น่าจะเกี่ยวกับการติดเชื้อของนักศึกษาฝึกงาน เพราะส่วนใหญ่มีการยกเลิกเที่ยวบินมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเส้นทาง เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต