ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่งกำหนด 28 จังหวัด "พื้นที่ควบคุมสูงสุด"

สังคม
3 ม.ค. 64
18:58
16,137
Logo Thai PBS
ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่งกำหนด 28 จังหวัด "พื้นที่ควบคุมสูงสุด"
นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) เป็นต้นไป

วันนี้ (3 ม.ค.2564) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 1/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เป็นผู้ลงนามคำสั่งดังกล่าว โดยมีรายละเอียดว่า

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป เป็นคราวที่ 8 จนถึงวันที่ 15 ม.ค.2564 นั้น

เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาตามความในข้อ 4 (2) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 25 มี.ค. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยคำแนะนำของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย

จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรการตามข้อกำหนดฯ สำหรับเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามบัญชีรายชื่อจังหวัด แนบท้ายคำสั่งนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

บัญชีรายชื่อจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด แนบท้ายคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 1/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.2564 มีดังนี้

1. กรุงเทพมหานคร
2. จังหวัดกาญจนบุรี
3. จังหวัดจันทบุรี
4. จังหวัดฉะเชิงเทรา
5. จังหวัดชุมพร
6. จังหวัดชลบุรี
7. จังหวัดตราด
8. จังหวัดตาก
9. จังหวัดนครนายก
10. จังหวัดนครปฐม
11. จังหวัดนนทบุรี
12. จังหวัดปทุมธานี
13. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
14. จังหวัดปราจีนบุรี
15. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
16. จังหวัดเพชรบุรี
17. จังหวัดราชบุรี
18. จังหวัดระนอง
19. จังหวัดระยอง
20. จังหวัดลพบุรี
21. จังหวัดสิงห์บุรี
22. จังหวัดสมุทรปราการ
23. จังหวัดสมุทรสงคราม
24. จังหวัดสมุทรสาคร
25. จังหวัดสุพรรณบุรี
26. จังหวัดสระแก้ว
27. จังหวัดสระบุรี
28. จังหวัดอ่างทอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง