วันนี้ (4 ม.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 745 คน จำนวนนี้เป็นการติดเชื้อในประเทศ 152 คน ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 577 คน สถานที่กักกันของรัฐ 16 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 8,439 คน รักษาหายแล้ว 4,357 คน เสียชีวิตคงที่ 65 คน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ประเทศไทยวันที่ 4 ม.ค.64 ทั้งหมด 745 คน มีดังนี้
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากการเฝ้าระวัง 152 คน แบ่งเป็น
1.1มีประวัติไปในสถานที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ปวย จำนวน 60 คน 1.สุราษฎร์ธานี จำนวน 1 คน 2.สมุทรสงคราม จำนวน 2 คน 3.อ่างทอง จำนวน 12 คน 3.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คน 4.กทม.จำนวน 27 คน 5.นนทบุรี จำนวน 1 คน 6.นครปฐม จำนวน 2 คน 7.ปทุมธานี จำนวน 9 คน 8.เพชรบุรี จำนวน 1 คน 9.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 คน 10.พิจิตร จำนวน 3 คน
1.2อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค จำนวน 92 คน โดย 1.กทม.จำนวน 1 คน 2.สมุทรสาคร จำนวน 36 คน 3.สมุทรปราการ จำนวน 20 คน 4.ระยอง จำนวน 17 คน 5.ชลบุรี จำนวน 13 คน 6.จันทบุรี จำนวน 5 คน
2.การค้าหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน (แรงงานต่างด้าว) จำนวน 577 คน 1.ชัยนาท จำนวน 1 คน 2.สมุทรสาคร จำนวน 505 คน 3.ระยอง จำนวน 25 คน 4.จันทบุรี จำนวน 22 คน และ 5. ตราด จำนวน 2 คน
3.ผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันทุกประเภท จำนวน 16 คน
จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ไข่แดงของการติดเชื้อครั้งนี้ ยังคงใช้มาตรการเชิงรุกในการตรวจคัดกรอง เพื่อแยกกักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการรายงานมาเป็นระยะๆ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต รายที่ 65 ชายไทยอายุ 56 ปี อยู่ในกรุงเทพฯ มีโรคประจำตัว ความดันสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง มีประวัติไปพื้นที่เสี่ยง ใน จ.สมุทรปราการ และคลองเตย
วันที่ 30 ธ.ค.63 ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมาก ไข้สูง 38.5 องศา และผลเอกซเรย์ปอด พบปอดอักเสบ หัวใจล้มเหลว ส่งตรวจพบเชื้อโควิดในวันที่ 1 ม.ค.2564 วันที่ 2 ม.ค.อาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 3 ม.ค.อาการแย่ลง ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในเวลา 17.40 น.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ในช่วงตั้งแต่สิ้นปีมาข่าวดีคือ จังหวัดที่จะเพิ่มขึ้นมีผู้ป่วยลดลง ที่กังวลคือ การกลับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หรือในอีก 14 วันข้างหน้า ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ จังหวัดที่ติดเชื้อเพิ่มมาใหม่ คือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่ 54
ตามมาตรการ 8 ข้อที่ประกาศไปนั้น ทางจังหวัดสามารถประกาศมาตรการของตนเองโดยมาตรการเข้มกว่าได้ แต่อ่อนกว่าไม่ได้
ก่อนหน้านี้ก็ได้รับความร่วมมือที่ค่อนข้างดี เช่นส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัย เชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัดจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า กรณีผู้ติดเชื้อ ใน จ.สมุทรสาคร ที่สูงกว่า 500 คน คือ อยู่ในกลุ่มก้อนแรงงานต่างด้าว ขณะนี้ต้องมีการตรวจเป็นระยะๆ และจะเห็นตัวเลขออกมา ซึ่งไม่เกินกว่าคาดหมาย เพราะมีจำนวนมาก แออัด และอยู่ในระยะของการฟักตัว
28 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม เช่น "วันเด็ก" จึงไม่สามารถจัดได้ ส่วน จังหวัดสีส้มและสีเหลือง ที่ขอความร่วมมือ เพราะบรรยากาศแบบนี้ก็ไม่ควรจัด
ศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาขยายการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปหลังจากที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 ม.ค.2564 นี้ โดยจะขยายไปประมาณ 1 เดือนหรือ 45 วัน ซึ่งจะมีมติภายในบ่ายวันนี้ (4 ม.ค.)
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า การเริ่มมาบังคับใช้มาตรการเข้มข้นหลังช่วงปีใหม่ขึ้นอยู่กับข้อมูล และการพิจารณาครั้งนี้ใช้ประสบการณ์ และสถานการณ์ปัจจุบันและผลกระทบในวงกว้าง แต่มาตรการต่างๆ ต้องได้รับความร่วมมือทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน
ขณะนี้จะมีผลกระทบทางด้านจิตใจ เพราะตกใจในตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ในลักษณะของการตื่นตระหนก แต่เมื่อมีฝีมือมนุษย์ปนเข้ามาจะมีความโกรธเข้ามาด้วย เช่น การมั่วสุม การไม่อยู่ในกติกา การไม่ให้ความร่วมมือ ขอให้ทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ช่วยกันดูแลจิตใจ ป่วยกายและอย่าป่วยใจไปด้วย