วันนี้ (5 ม.ค.2564) คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมห้องควบคุมกล้องวงจรปิดของ สถานที่กักตัวนักกีฬา และสนามแข่งขัน หลังจากที่นักกีฬาของแต่ละประเทศ ได้เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว
สำหรับ มาตราการคุมโควิด-19 ในการแข่งขันครั้งนี้ จะเป็น Bubble Quarantine นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนออกเดินทางต้องมีเอกสารฟิตทูฟลาย (Fit To Fly) ออกโดยแพทย์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ล่วงหน้า 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
เมื่อแพทย์ยืนยันว่าไม่มีเชื้อ ถึงจะเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และเมื่อมาถึงไทย ทุกคนต้องเข้าอยู่ในสถานที่กักกันตัวตั้งแต่ระหว่างวันที่ 4-31 มกราคม ห้ามออกก่อนครบกำหนด 14 วัน และไม่อนุญาตให้เปลี่ยนห้องพักจากที่จัดเตรียมไว้ให้
เมื่อผลเป็นลบ นักกีฬาจึงจะสามารถออกมาฝึกซ้อม และเตรียมร่างกายได้ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.หลังจากนั้นจะตรวจหาเชื้ออย่างต่อเนื่องและถี่มาก ตั้งแต่ก่อนการกักตัว ระหว่างการกักตัว และหลังการกักตัว ตรวจหาเชื้อไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละสองครั้ง และนักกีฬาจากประเทศต่างๆ จะพบกันขณะทำการแข่งขันเท่านั้น
เมื่อกักตัวครบ 14 วันใน Bubble แล้ว ยังคงไม่สามารถออกจาก Bubble จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของรายการแข่งขันที่ 3 สำหรับผู้ที่ตกรอบหากประสงค์จะออกจาก Bubble ต้องรอจนพ้น 14 วัน และไม่สามารถกลับเข้ามาใน Bubble ได้อีก
นักกีฬาและคณะทั้งหมดต้องปฏิบัติตามมาตรการ และกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมทุกขั้นตอนอย่างละเอียด หากใครทำผิดมาตรการแม้เพียงข้อเดียว จะหมดสิทธิ์แข่งขัน และต้องถูกตรวจเชื้ออีกครั้ง ก่อนถูกส่งตัวกลับไปประเทศของตน
คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า การที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพนั้น มาจากการเชื่อมั่นของต่างประเทศ ที่เห็นว่า ไทยสามารถจัดการกับการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
ถือว่าเป็นการรอคอยครั้งสำคัญ สำหรับแฟนๆ แบดมินตันไทย ที่จะได้รับชมการถ่ายทอดสด เพราะว่าตั้งแต่ โควิด-19 ระบาด เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว แฟนๆ แทบจะไม่ได้ชมการแข่งขันเลย ฝ่ายจัดคาดว่าจะมีผู้รับชมทั่วโลกประมาณ 1,000 ล้านครัวเรือน ในแต่ละรายการ
นอกจากนี้ จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวด้วย เพราะหลังจากแข่งขันจบนักกีฬาและผู้ติดตาม จะต้องอยากไปชื่นชมความงดงามของธรรมชาติในประเทศไทยอยู่แล้ว