วันนี้ (9 ม.ค.2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า FDA ได้ประกาศอนุมัติการใช้วัคซีน COVID-19 ของไฟเซอร์ - ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) ในกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งฉีดเป็น 2 โดส ห่างกัน 21 วัน โดยมีผู้เข้ารับวัคซีนโดสแรกแล้ว 1,893,360 คน เมื่อนับถึงวันที่ 23 ธ.ค.2563 ระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีนของสหรัฐฯ ของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) รายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนรวม 4,393 คน โดยในจำนวนนี้ 175 คน จะได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า อาจมีโอกาสเกิดอาการแพ้ขั้นรุนแรง ซึ่งรวมถึงอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนอีก 21 คน ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งรวมถึง 17 คน ที่มีประวัติการแพ้หรืออาการแพ้ โดย 7 จาก 17 คนนี้เคยมีประวัติอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันอยู่แล้ว
ดังนั้นวัคซีนที่จะมาฉีดในไทย จะต้องได้รับการตรวจสอบจาก อย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ. ก่อน จึงจะนำมาใช้กับประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม การเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีนเกิดขึ้นได้เสมอ แต่จะต้องมาประเมินผลกันอีกครั้ง
ยุโรปเตือนวัคซีนปลอมระบาดหลายประเทศ
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจสหภาพยุโรป หรือ ยูโรโพล ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับวัคซีนปลอมที่จำหน่ายทางออนไลน์ โดย จาน ออบ เจน ออร์ท โฆษกยูโรโพล ระบุว่า เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการวัคซีนจำนวนมาก กระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมในหลายรูปแบบ รวมถึงการจำหน่ายวัคซีนปลอมผิดกฎหมาย หรือวัคซีนที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งการขโมยสินค้าทางการแพทย์ เช่น ขวดวัคซีน
ขณะที่เมื่อเดือน มี.ค. องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่อ้างว่าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่สามารถรักษาหรือป้องกัน COVID-19 ได้ หลอกขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานและปลอมแปลงเนื่องจากประชาชนจำนวนมากนิยมวินิจฉัยตัวเองและซื้อยารักษาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
วัคซีน COVID-19 ไม่ได้หาซื้อได้ตามท้องตลาด รัฐบาลเองต้องสั่งจองตั้งแต่เดือน พ.ย. 63 ได้เดือน พ.ค. 64 การแอบอ้างว่าหาวัคซีนมาขายได้ ส่วนใหญ่ไม่เป็นความจริง จึงขอเตือนให้ระวังกันด้วย
ยังตรวจสอบเคสชายเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน
ส่วนกรณีต่างประเทศพบผู้ได้รับวัคซีนแล้วเสียชีวิต นพ.โอภาส ระบุว่า เรื่องการฉีดวัคซีนในระบบปกติ หลัง อย.แต่ละประเทศตรวจสอบความปลอดภัยและอนุญาตให้ใช้แล้ว กระบวนการต่อมา คือ การติดตามอาการผู้ฉีดอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่นแพ้ยารุนแรง หรือเสียชีวิต จะต้องตรวจสอบย้อนกลับว่า การเสียชีวิตเกิดจากวัคซีนหรือไม่
กรณีนี้ยังไม่สรุปว่าเสียชีวิตจากวัคซีน แต่เป็นการเตือนใจว่า ต้องดูความปลอดภัยควบคู่กับการป้องกันการระบาดด้วย สำหรับข่าวฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ