สธ.แจงขั้นตอนจัดหาวัคซีน คาดขึ้นทะเบียน อย. 14 ก.พ.นี้

สังคม
10 ม.ค. 64
16:14
768
Logo Thai PBS
สธ.แจงขั้นตอนจัดหาวัคซีน คาดขึ้นทะเบียน อย. 14 ก.พ.นี้
สธ.แถลงความคืบหน้าวัคซีน COVID-19 คาดขึ้นทะเบียน อย.ได้ในวันที่ 14 ก.พ. และในสิ้นเดือน จะได้ลอตแรกเพื่อฉีดให้คนไทย โดยจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงและบุคลากรทางการแพทย์ อสม. ทหารและตำรวจ ในด่านคัดกรองก่อน

วันนี้ (10 ม.ค.64 ) กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้า สถานการณ์โรคไวรัสโควิด - 19 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นพ.นคร เปรมศรี สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส COID-19 ว่า ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 245 คน ซึ่งอยู่ในความคาดหมาย ยอดสะสมทะลุ 10,000 คน ในระยะต่อไป ในประเทศประมาณ 8,157 คน คัดกรองเชิงรุก 2,791 คน อัตราการเสียชีวิต หากแบ่งเฉพาะระลอกใหม่ จำนวนผู้ป่วยระลอกใหม่ (15 ธ.ค. 63 -10 ม.ค.64) รวม 6,061 คน เสียชีวิต 7 คน อยู่ในโรงพยาบาล 1,811 คน ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับทรงตัว คาดว่าจะคงที่ในช่วง 2 สัปดาห์ มี 58 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อ ขณะที่ จังหวัดที่ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน

สถานการณ์ทรงตัวมีแนวโน้มดีขึ้น ปิดพื้นที่ช่วงภาคกลางและมีกันชนพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดลงในช่วง 2 สัปดาห์ สิ้นเดือนจาก 3 หลักเหลือ 2 หลัก และเดือน ก.พ.จะอยู่ที่ 2 หลักแต่ไม่มาก 

นพ.ศุภกิจ กล่าวถึงการจัดหาวัคซีน ว่า กรณีการแพร่ระบาดของโรคในโลกนี้วัคซีนเป็นตัวช่วยยับยั้งการระบาด จนทำให้การแพร่ระบาดยุติ โดยมีหลักการคือ ให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันไม่ต้องครบ 100 เปอร์เซนต์ แต่เพียงมีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งจะทำให้อำนาจการแพร่เชื้อในสังคมจะลดลงและท้ายที่สุดจะหยุดการแพร่ระบาด หลักสำคัญคือ ปกป้องการแพร่ระบาดในชุมชนก่อนโดยให้ครอบคลุมในระดับหนึ่ง การได้มาของวัคซีนต้องผ่านการทดลองและมีความปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งจะทดลองใน 3 เฟส

นพ.ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติม สิ่งที่พิจารณาคือ 1.คุณสมบัติของวัคซีน 2.ราคาที่เหมาะสม 3.จำนวน และ 4.เวลาที่จะได้รับวัคซีนจากผู้ผลิต ต้องนำมาประมวลและหาทางเลือก เพราะไม่ต้องการให้ไทยมีวัคซีนเป้าหมายเพียงชนิดเดียว ซึ่งต้องเผื่อกรณีต่าง ๆ เช่น อาจไม่ได้ผล ซึ่งต้องเตรียมจัดหาประมาณ 3 ชนิด เพื่อสะดวกต่อการจัดเตรียมวัคซีน เนื่องจากวัคซีนแต่ละชินมีการจัดเก็บและเตรียมแตกต่างกัน

นอกจากนี้ กระบวนการจัดหาวัคซีน ประเทศไทยมีกลไกคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็น ประธาน และให้รองนายกฯดูแล ได้มอบหมายให้ สถาบันวัคซีน เป็นเลขาฯ และสถาบันโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค และ สำนักงานอาหารและยา (อย.) พิจารณาคุณภาพในการนำเข้ามายังไทย และการตรวจสอบคุณภาพและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการตรวจสอบกรณีการนำวัคซีนเข้ามา

นอกจากนี้ ยังมี คณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนแห่งประเทศไทย นำโดย ปลัดสธ. มีการเจรจานับครั้งไม่ถ้วน ขณะที่ข้อกังวลจากสังคมออนไลน์ พร้อมรับไว้พิจารณา แต่หลายอย่างพบว่ามีความคลาดเคลื่อนและบางส่วนเห็นไม่ตรงกัน เช่น กรณีเอกชนนำเข้านั้นยืนยันไม่ได้ห้ามแต่ต้องผ่านมาตรฐานของ อย. ขณะที่ กรณีของวัคซีนจาก บ.ซิโนแวค ของประเทศจีนซึ่งมีข่าวว่า เอกชนไปซื้อหุ้นเพิ่มยืนยันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งวัคซีนในการจัดหาหลายทาง นั้นทางหนึ่ง คือ ของจีนจำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งมาจากสัมพันธ์อันดีของไทย-จีน และ ขณะแอสตร้าเซนเนก้าก็มีการเจรจาและขอให้ส่งมอบโดยเร็ว

 

นพ.นคร ระบุว่า อธิบายวัคซีน แต่ละชนิดว่า ขณะนี้มีวัคซีนที่ผ่านขึ้นทะเบียนในประเทศตนเอง 5 ชนิดจาก 6 ชนิด คือ 1.วัคซีน บ.ไฟเซอร์ฯ ประเทศสหรัฐอเมริกา/ เยอรมนี มีประสิทธิภาพ 95 %  2.วัคซีน บ.โมเดอร์นา สหรัฐฯ ประสิทธิผล 94.5 % 3.วัคซีน บ.แอสตร้าเซนเนก้า ของอังกฤษ/สวีเดน ประสิทธิผล 62- 90 % 4.วัคซีนสปุตนิกวี ของรัสเซีย ประสิทธิผล 92 % 5.ของ Beijing Institute of Biological products ประสิทธิผล 79% และ 6. วัคซีนของ บ.ซิโนแวค ของจีน ประสิทธิผล 78 % ซึ่งอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน 

 

ทั้งนี้ วัคซีนแต่ละ บ.มีผลข้างเคียงต่างกัน เช่น บ.ไฟเซอร์ฯ ผลข้างเคียง ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ มีอาการแพ้ 11 ต่อ 1 ล้านการฉีด 2.วัคซีน บ.โมเดอร์นา มีอาการข้างเคียง คือ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 3.บ.แอสตร้าเซนเนก้า มีอาการข้างเคียง ปวดบริเวณที่ฉีดชั่วคราว ปวดปวดศีรษะ เป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ 3.วัคซีน สปุตนิกวี ยังไม่พบรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรง และ ของ Beijing Institute of Biological products ยังไม่พบรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรง และ บ.ซิโนแวค ยังไม่พบรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรง รวมถึงการเก็บรักษาวัคซีนแต่ละชนิดก็แตกต่างกันด้วย

นพ.นคร กล่าวว่า ทางกระทรวงได้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การจองซื้อและจัดหา กรณีวัคซีน บ.แอสตร้าฯจองซื้อ 25 ล้านโดส ซึ่งจากนั้นจะมีการร่วมผลิตโดยไทย โดยมีกำลังการผลิตราว 200 ล้านโดสต่อปี สามารถผลิตป้อนประเทศในภูมิภาคได้

การใช้วัคซีนในภาวะเร่งด่วน ผลข้างเคียงที่พบได้ยากในจำนวน 1 ล้านคนขึ้นไปจะพบมากขึ้น ต่างจากช่วงทดลองที่จำนวน 50,000 คนหรือทดลองในจำนวนน้อย วัคซีนทุกตัวจะมีการเก็บข้อมูล และเราได้รวบรวมข้อมูลเพื่อระมัดระวัง และต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลข้างเคียงและผลการยับยั้งการระบาด ลดอัตราป่วย และเสียชีวิต และเก็บข้อมูลด้วย

นพ.โอภาส กล่าวว่า การกระจายวัคซีนต้องคำนึงถึงความมั่นคงด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม เทียบเคียงกับประเทศอื่น และสอดคล้องกับสากล โดยยูนิเซฟรายงานว่า ในช่วงแรกวัคซีนจะมีจำนวนจำกัดในช่วงแรก แต่ต่อมาในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 64 จะเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งเป้าหมายของการให้วัคซีนในระยะแรกคือ ลดอัตราการป่วย และเสียชีวิต โดยฉีดในกลุ่มความเสี่ยงสูงและเสียชีวิต เช่น มีโรคประจำตัว โรคทางเดินหายใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน ความดัน และผู้สูงอายุ และ 2.ปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ คือ บุคลกรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน อสม. ทหาร ตำรวจ ที่ทำหน้าที่คัดกรอง โดยฉีดในพื้นที่เสี่ยงคือ 5 จังหวัด โดยจำนวน 2 ล้านโส ต้องผ่านการอนุญาตจาก อย.ให้คนละ 2 โดส ฉีดห่างกัน 1 เดือน 

 

นอกจากนี้ ยังต้องต้องเตรียมความพร้อม สถานบริการ บุคลากร ลงทะเบียน จากนั้นจะกระจายไปทั่วประเทศ ประชาชนจะสามารถรับวัคซีนในพื้นที่ใกล้บ้านได้ และในการฉีดจะต้องมีการเตรียมระบบทะเบียน รวมถึงการติดตามผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้รับฉีดวัคซีนครบ 2 ครั้ง จะติดตามผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

 

การฉีดวันนี้ ฟรี แต่ต้องมีการคุ้มครอง หลังจากนี้อาจมีอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งกรมควบคุมโรค และ อย.จะติดตามอาการผู้ฉีดวัคซีนทุกคนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื่อติดตามอาการไม่พึงประสงค์และประสิทธิภาพในการลดการติดเชื้อและเสียชีวิต

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การได้มาของซิโนแวคจำนวน 2 ล้านโดสทำมาจากเชื้อตาย ในจีนฉีดให้ประชาชนจำนวนมาก ยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงรุนแรง และคาดว่าจะได้ขึ้นทะเบียนในเร็ววัน ในจีนก็เป็นการฉีดในกรณีฉุกเฉิน ขณะที่ของไทยมีระบบซึ่งกรมควบคุมโรคของบประมาณจากรัฐบาล ในกรณีเร่งด่วน 2 ล้านโดส เนื่องจากสามารถเจรจาได้ รวมถึงเจรจา บ.แอสตร้าเซนเนก้าได้ 26 ล้านโดส การจัดหาโดยองค์การเภสัชกรรม เนื่องจากจีนไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทย อภ.จึงเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ซิโนแวคในไทย 

 

รวมถึงการตรวจคุณภาพโดย อย.หากเรียบร้อย อภ.จะติดต่อกับจีนในการจัดหาและขึ้นทะเบียนให้ทันภายในวันที่ 14 ก.พ.นี้ หาขึ้นทะเบียน อย.ทัน ก็จะแจ้งออเดอร์ไปจีนและภายในวันที่ 28 ก.พ.จะได้วัควีนชุดแรกจำนวน 2 แสนโดส และในเดือน มี.ค.จำนวน 8 แสนโดส เม.ย. 1 ล้านโดส และในเดือน พ.ค.ล็อตใหญ่ จำวน 26 ล้านโดสของ บ.แอสตร้าเซนเนก้า และอีก 35 ล้านโดส ซึ่งจะครอบคลุมประชากรจำนวนมากซึ่งความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนขณะนี้เป็นไปตามแผน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง