รองผบ.ตร.เผย ผู้เสพ "เคนมผง" เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน โคม่า 1

อาชญากรรม
12 ม.ค. 64
13:53
519
Logo Thai PBS
รองผบ.ตร.เผย ผู้เสพ "เคนมผง" เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน  โคม่า 1
รอง ผบ.ตร.มีผู้เสพเคนมผง เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน รวมผู้เสียชีวิตเป็น 7 คน ขณะเดียวกันยังเหลือผู้เสพ ที่มีอาการโคม่านอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 1 คน ส่วนผลการสอบพยานเบื้องต้นผู้เสพซื้อเคนมผงมาจากผู้ขายรายย่อยคนละรายกัน

วันนี้ (12 ม.ค.64) ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนกรณีผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผงในย่านพระราม 3 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผงเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกส่งรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันมีผู้เสพที่อาการโคมาและยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อีก 1 คน

ส่วนผลการชันสูตร ในเบื้องต้นแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า หัวใจล้มเหลวส่วนสารเสพติดจะมีชนิดใดบ้าง หรือสารเสพติดชนิดใดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ยังต้องรอผลการผ่าชันสูตรโดยละเอียดซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับผลการตรวจพิสูจน์แยกสารเคมีว่า "เคนมผง" ที่ผู้เสพกลุ่มนี่เสพแล้วเสียชีวิตนั้น มีสารเสพติดชนิดใดเป็นส่วนผสมรวมอยู่บ้าง เพราะ "เคนมผง" ไม่ได้มีสูตรส่วนผสมตายตัวซึ่งขณะนี้ตัวอย่างสารเสพติดถูกส่งให้แพทย์นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจพิสูจน์

ด้าน  พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง ความคืบหน้าทางการสืบสวนสอบสวนคดีความว่า ผลสอบปากคำพยานในพื้นที่วัดพระยาไกร เบื้องต้นพยานให้การว่า ซื้อยาเสพติดมาจากผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ซึ่งต่างคนต่างซื้อ ไม่ได้ซื้อจากผู้ค้ารายเดียวกัน ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมให้ไปถึงต้นตอของเคนมผงล็อตนี้ว่า ถูกผสมหรือมีรายใหญ่มาจากแหล่งใด พร้อมสันนิษฐานว่า การผสมสารเสพติด มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ หากกกลุ่มผู้เสพผสมสารเสพติดเองนั้นเพื่อเพิ่มความรุนแรงหรือความมึนเมา หากเป็นผู้ค้าผสมมาจำหน่าย ก็เพื่อหวังลดต้นทุน

ขณะเดียวกันในท้องที่สายไหม ที่มีการจับผู้ต้องหา หญิง 1 คน พร้อมของกลาง เคนมผง น้ำหนักประมาณ 8 กรัม ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า รับมาจากเอเยนต์ในลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งรับมาลอบจำหน่ายให้วัยรุ่นในย่านสายไหม มาระยะหนึ่งแล้ว โดยตำรวจจะรวบรวมข้อมูล มั้งในสายไหมและพระยาไกร วิเคราะห์ขยายผลหาเอเยนต์รายใหญ่ รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงว่า จะเป็นเอเยนต์รายเดียวกันหรือไม่ อย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง