รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ โต้ละเลย "บ้านแม่เกิบ" แต่พื้นที่สูงเป็นอุปสรรค

สังคม
15 ม.ค. 64
06:29
522
Logo Thai PBS
รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ โต้ละเลย "บ้านแม่เกิบ" แต่พื้นที่สูงเป็นอุปสรรค
รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ชี้แจงกรณีข่าว บ้านแม่เกิบ ถูกรัฐละเลยทอดทิ้ง ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีหน่วยงานของรัฐได้เข้าช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดอยสูงชันกลางหุบเขาทำให้อาจมีอุปสรรคบ้าง

วันนี้ (15 ม.ค.2564) นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของภาครัฐในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีหมู่บ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ทางจังหวัดจึงได้สั่งการให้ทางอำเภออมก๋อย เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่า บ้านแม่เกิบ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอมก๋อย มีพื้นที่หย่อมบ้านอีก 2 หย่อมบ้าน มีระยะทางห่างจากที่ว่าการอำเภออมก๋อย 82 กิโลเมตร และห่างจาก อ.เมืองเชียงใหม่ 262 กิโลเมตร เส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นถนนลูกรังสลับกับถนนคอนกรีต มีประชากรอาศัยอยู่รวมทั้ง 3 หย่อมบ้าน 177 ครัวเรือน 551 คน เป็นชาย 293 คน หญิง 158 คน


อย่างไรก็ตาม หน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาดำเนินการพัฒนาพื้นที่ เช่น โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โครงการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการประปาหมู่บ้านขององค์การบริหารส่วนตำบลนาเกียน โครงการติดตั้งอินเตอร์เน็ตประชารัฐของ กสทช. รวมถึงโครงการด้านสาธารณูปโภคอื่นๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ รัฐได้จัดกิจกรรมพัฒนาอาชีพระยะสั้น ศูนย์การเรียนรู้ชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวงบ้านแม่เกิบ (ศศช.) รวมถึงจัดการศึกษาและด้านสุขภาพที่มีระบบการเรียนการสอนที่เด็ก เยาวชนสามารถเข้าถึงได้ และเด็กทุกคนได้รับอาหารตามหลักโภชนาการอย่างเพียงพอ สำหรับเรื่องระบบไฟฟ้าแสงสว่างนั้น ทางกระทรวงพลังงานได้เข้าติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้ทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่ปี 2548 แต่ด้วยเส้นทางคมนาคมเป็นเขาสูง ห่างไกล จึงอาจทำให้การรับบริการจากรัฐในบางกรณีมีอุปสรรคบ้าง

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานขอความร่วมมือไปยังมูลนิธิต่าง ๆ ในการขอรับการสนับสนุนตามความจำเป็น เพื่อนำไปมอบที่บ้านแม่เกิบและชุมชนต่าง ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนในการเปิดรับข้อมูลที่รอบด้าน ก่อนการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือพาดพิงถึงบุคคลอื่น ในทางที่เสียหาย หากมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ จะต้องมีความผิดตามกฎหมายได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง