ธุรกิจเกษตร-ส่งออก กระทบหนัก สภาอุตฯ จี้รัฐเร่งฟื้นสมุทรสาคร

เศรษฐกิจ
16 ม.ค. 64
16:20
574
Logo Thai PBS
ธุรกิจเกษตร-ส่งออก กระทบหนัก สภาอุตฯ จี้รัฐเร่งฟื้นสมุทรสาคร
สภาอุตฯ สมุทรสาคร จี้รัฐฟื้นสมุทรสาคร ระบุภาคธุรกิจจับมือหนุนเต็มที่ ช่วยรัฐเร่งตรวจโควิดแรงงานข้ามชาติ สร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ หวังส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้ ขณะที่ธุรกิจหลายชนิดกระทบนับพันล้าน

วันนี้ (16 ม.ค.2564) นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์ไทยบีเอส ถึงผลกระทบของภาคอุตสาหกรรม จากสถานการณ์ COVID-19 ว่า ภาคอุตสาหรรมใน จ.สมุทรสาคร กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ กลุ่มพลาสติก ซึ่งมีอยู่กว่า 1,000 ราย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารกว่า 700 ราย กลุ่มนี้ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเป็นทั้งการผลิตและส่งออก ถ้าคนไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ก็จะไม่สั่งซื้อ ก็ต้องผลิตน้อยลง

 

ส่วนอุตสาหกรรมภาคขนส่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ การเดินทาง-เข้าออกจังหวัดลำบาก

 

นอกจากนี้ ราคาค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์ ที่ขึ้นตามราคาตลาดโลกขยับสูงขึ้นมาก จากตู้ละกว่า 1,600 เหรียญฯ ขณะนี้ผู้ประกอบการต้องจ่ายอยู่ที่ตู้ละประมาณ 5,000 เหรียญฯ ซึ่งเป็นทิศทางของภาคขนส่งทั่วโลก ทำให้สถานการณ์แบบนี้ ยิ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ใน จ.สมุทรสาคร ด้วยเช่นกัน

ยอดขายลดลง 30 % จากสถานการณ์ปกติ ซึ่งถือว่าเยอะมาก เพราะว่าโรงงาน ต้องดูแลแรงงานอยู่ ในขณะที่มีกำลังผลิตอยู่ 100 % แต่ยอดขายตกลงมา 30 % อันนี้น่าเป็นห่วงมาก บอกทุกคนว่า จับมือกันทำยังไงก็ได้ให้สมุทรสาครปลอดโควิดให้เร็วที่สุด

ตอนนี้ความเสียหายเท่าไหร่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ภาคเอกชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก เกิดความเสียหายถึงวันละ 1,600 ล้านบาท ช่วงเริ่มต้นเหตุการณ์ที่ตลาดกลางกุ้ง แต่ตั้งแต่ตลาดทะเลไทย และตลาดมหาชัยกลับมาค้าขายได้ ทำให้ปัจจุบันความเสียหายลดลงเหลืออยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่เจ็บหนักสุด คือพวกโรงงานที่ส่งออก ซึ่งต้องเร่งตรวจโควิดแรงงานให้เร็วที่สุด เพราะโดนยกเลิกออเดอร์กันมาก ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ ที่เขาต้องการใช้ซัพพลายจากที่นี่ เขาก็จะมี Condition (เงื่อนไข) มา ว่าคุณต้องตรวจคนในโรงงานก่อน ถ้าคุณปลอดเชื้อจึงจะสามารถเข้าไปยังอุตสาหกรรมของเขาได้ อันนี้ทำให้ถูกยกเลิกออเดอร์กันเยอะมาก ทำให้โรงงานแต่ละแห่งต้องเร่งตรวจเชิงรุกกันเอง

บางโรงงานไม่รอให้ภาครัฐมาตรวจ เขาตรวจเอง จ่ายเงินเอง กักตัวเอง เพื่อความรวดเร็ว ตอนนี้เริ่มทำกันมาก ในเรื่องของจิตวิทยา และความเชื่อมั่นกับลูกค้า และคู่ค้า

เราจะเห็นปัญหาใหญ่ที่ต้องทำคือ ไม่ใช่ว่าตรวจแล้ว หายแล้ว และจะไม่กลับมาเป็นอีก ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องเข้าไปจัดสรร เรื่องของที่อยู่ของแรงงานตัวเอง อย่าให้แอดอัดเกินไป เพราะถ้ากลับไปอยู่ในสภาพเดิมๆ โอกาสที่จะกลับมาติดอีกก็ยังมีอยู่

อยากให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรเร่งด่วนบ้าง

นายอิภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่เราทำสนับสนุนภาครัฐตอนนี้ คือการเร่งทำโรงพยาบาลสนาม ต่อมาคือ การกักตัว ที่เราต้องเข้าไปสนับสนุนรัฐ ซึ่งส่วนของจังหวัดเขาทำเต็มอยู่แล้ว

อยากให้ส่วนกลางควรเข้ามาสนับสนุนจังหวัดให้มากกว่านี้ ในเรื่องของงบประมาณ เพราะเท่าที่ทราบงบประมาณจากส่วนกลาง ติดขั้นตอน จะช้านิดหนึ่ง การจัดสรรงบประมาณยังช้า ซึ่งถ้าจังหวัดขออะไรไปก็สนับสนุนมา เพราะมันจำเป็นจริงๆ เพราะเราต้องการให้สมุทรสาครปลอดโควิดให้เร็วที่สุด

ธุรกิจอะไรบ้างที่ไปทั่วโลก

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างบ้านแพ้ว กระทุ่มแบน ก็จะมีกล้วยไม้ ลำไย มะพร้าว เป็นหลัก ที่มีขายในประเทศและมีการส่งออก ตอนนี้กล้วยไม้เดือดร้อนมาก ส่งออกก็ไม่ได้ ขายในประเทศก็ไม่ได้

ส่วนสินค้าเกษตรตัวอื่น อย่างมะพร้าวมีข่าวว่าขายไม่ได้ ส่งออกไม่ได้ นี่เป็นปัญหาของสินค้าเกษตร เกลือมีสต๊อกอยู่เฉพาะที่สมุทรสาคร 15,000 ตัน ประมงกว่าจะเอาเรือออกได้ ตรวจแล้วตรวจอีก แล้วค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทุกวัน ในขณะที่รายได้สินค้าสัตว์น้ำลดลง ขณะที่สู้เพื่อให้ออกได้อย่างเดียว ถ้าวันไหนต้องจอดก็คงต้องจอดเลย เพราะไม่รู้จะเอาทุนที่ไหนทำต่อแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง