ลุ้นวันนี้ ครม.เคาะคนละครึ่ง - เราชนะ แจก 3,500 บาท 2 เดือน

เศรษฐกิจ
19 ม.ค. 64
06:24
13,111
Logo Thai PBS
ลุ้นวันนี้ ครม.เคาะคนละครึ่ง - เราชนะ แจก 3,500 บาท 2 เดือน
กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาหลักเกณฑ์ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ 30-35 ล้านคน และโครงการคนละครึ่งรอบเก็บตก 1.34 ล้านสิทธิ เยียวยาผลกระทบ COVID-19

วันนี้ (19 ม.ค.2564) กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอโครงการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมี 2 โครงการ คือ เราชนะ ที่จะสรุปรายละเอียด เช่น เกณฑ์ผู้ได้รับสิทธิ วิธีลงทะบียน และรูปแบบการโอนเงิน และโครงการคนละครึ่งที่จะเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติม

สำหรับโครงเราชนะ จะแจกเงินให้ประชาชน 7,000 บาท แบ่งจ่ายเป็น 2 เดือน เดือนละ 3,500 บาท ให้ประชาชน 30-35 ล้านคน ใช้กรอบวงเงินประมาณ 200,000 ล้านบาท จาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตร และกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

"เราชนะ" เปิดลงทะเบียนเร็วสุดสิ้น ม.ค.

สำหรับกลุ่มที่กระทรวงการคลังมีฐานข้อมูลแล้ว เช่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับสิทธิโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะโอนเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง หากเป็นผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ก็ได้รับสิทธิโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และได้รับเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง

ส่วนผู้ที่ไม่อยู่ในระบบฐานข้อมูลจะต้องลงทะเบียน ผ่าน www.เราชนะ.com คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน ก.พ.นี้ สำหรับกลุ่มที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา ได้แก่ ผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี ข้าราชการและพนักงานภาครัฐ แรงงานที่มีระบบประกันสังคม และผู้ที่มีรายได้สูง

ลงทะเบียน "คนละครึ่ง" 1.34 ล้านสิทธิ

ขณะที่โครงการคนละครึ่งรอบเก็บตกในเฟส 2 จะเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,340,000 สิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วงเงินใช้จ่าย 3,500 บาท เริ่มใช้จ่ายวันที่ 25 ม.ค. - 31 มี.ค.2564

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า โครงการเราชนะ จะช่วยทำให้ประชาชนใช้จ่ายเเละมีเงินหมุนเวียน รวมทั้งช่วยชดเชยกับมูลค่าทางเศรษฐกิจที่หายไป เเต่เห็นว่ารัฐควรให้มีเกณฑ์การใช้เงินโครงการเราชนะ แบบโครงการคนละครึ่ง เพื่อทำให้เงินดังกล่าวหมุนเวียนประคองธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศ ไม่ถูกนำไปซื้อของฟุ่มเฟือยหรือสินค้าที่ไม่ได้ผลิตภายในประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง