กรมบัญชีกลาง ชี้แจงปมเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เหตุได้รับเงินบำนาญฯแล้ว

เศรษฐกิจ
23 ม.ค. 64
19:55
17,455
Logo Thai PBS
กรมบัญชีกลาง ชี้แจงปมเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เหตุได้รับเงินบำนาญฯแล้ว
กรมบัญชีกลาง ชี้แจง กรณีเรียกเงินเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย กว่า 84,000 บาท เหตุระเบียบกระทรวงมหาดไทย กำหนดคุณสมบัติ ผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินบำนาญพิเศษจึงต้องคืนเงินดังกล่าว

วันนี้ (23 ม.ค.64) นางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับผู้สูงอายุรายนางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี ชาวบ้านใน ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ แจ้งว่ากรมบัญชีกลาง มีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงินจำนวน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญพิเศษ กรณีลูกชายซึ่งเป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด นั้น

กรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า เนื่องจากหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่าจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ซึ่งแต่เดิม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เจริญสุข จ.บุรีรัมย์ เป็นผู้จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แก่นางบวน โล่สุวรรณ ตลอดมา

ต่อมาในปี 2563 ได้มีการดำเนินการโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-social welfare) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจ่ายตรงเบี้ยชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ ระหว่างกรมบัญชีกลางและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.)

ดังนั้น เมื่อ อบต. มีหนังสือสอบถามกรมบัญชีกลางให้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลผู้รับบำนาญ ว่าผู้สูงอายุรายดังกล่าวเป็นผู้รับบำนาญหรือไม่ กรมบัญชีกลาง ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นผู้รับบำนาญพิเศษพร้อมทั้งได้มีหนังสือตอบ อบต.แล้ว ในกรณีที่ได้รับเงินเบี้ยสูงอายุไปโดยไม่มีสิทธิ อบต.จะเรียกคืนเงินตามขั้นตอนและวิธีการที่ อบต.กำหนด ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกรมบัญชีกลางที่จะดำเนินการได้

อย่างไรก็ดี กรมบัญชีกลางมีความห่วงใย และเข้าใจสถานการณ์ ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายคลังจังหวัดบุรีรัมย์ ประสาน อบต.เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุรายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง