วันนี้ (26 ม.ค.2564) ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ เมื่อเวลา 07.00 น. พบว่า ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศลดลงจากเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) แต่ยังคงเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย พะเยา น่าน เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สระบุรี หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ อุบลราชธานี และนครราชสีมา
โดยภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 35 - 85 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 13 พื้นที่ สูงสุดที่ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง วัดได้ 85 มคก./ลบ.ม. รองลงมาคือที่ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา วัดได้ 79 มคก./ลบ.ม. เป็นต้น
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 40 - 99 มคก./ลบ.ม., ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 13 - 59 มคก./ลบ.ม., ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 14 - 40 มคก./ลบ.ม., ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 5 - 20 มคก./ลบ.ม. และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 15 - 43 มคก./ลบ.ม.
ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ และประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK
คาดพรุ่งนี้ PM2.5 เพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
น.ส.ศิวพร รังสิยานนท์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เปิดเผยว่า วันนี้สถานการณ์ PM2.5 เริ่มคลี่คลาย เนื่องจากรัฐบาลสั่งการให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจติดตามและควบคุมแหล่งกำเนิด PM2.5 โดยเฉพาะการเผาในที่โล่งและการจราจร รวมทั้งปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการกระจายของฝุ่น
แต่วันที่ 27-28 ม.ค.นี้ การสะสมของฝุ่นอาจจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากลมเปลี่ยนทิศและมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ภาคอื่นๆ ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มลดลง จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่ง และลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และปรึกษาแพทย์หากพบอาการผิดปกติ