วันนี้ (29 ม.ค.64) นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 กล่าวถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่แก้ไขถ้อยคำในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่มีข้อความพาดพิงถึงสถาบันฯว่า เมื่อวานนี้ได้เชิญทั้งรัฐบาลและมีฝ่ายค้านได้มาหารือกัน และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวให้ข้อคิด
ทั้งนี้ ได้รับการยืนยันว่า ญัตติของพรรคการเมืองฝ่ายค้านมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้ พร้อมกับยอมรับว่าตัวเองและประธานสภาฯกังวลกับถ้อยคำในญัตติที่พาดพิงถึงสถาบันฯจึงได้วิเคราะห์ว่า หากมีการตั้งข้อกล่าวหาหลายประเด็นที่พัวพันกับสถาบันฯจะส่งผลให้การอภิปรายขัดต่อข้อบังคับหรือไม่ ซึ่งในข้อบังคับการประชุมกำหนดว่า ห้ามกล่าวถึงบุคคลภายนอกหรือพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น และแม้จะไม่ได้เป็นการกล่าวหาสถาบันฯแต่ในญัตติเขียนเชื่อมโยงไปถึงสถาบันฯอันไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะอภิปรายถึงสถาบันฯได้ จึงเป็นเรื่องที่ลำบากใจของประธานในที่ประชุมและอาจจะมีการประท้วงในที่ประชุม ทำให้การประชุมไม่ราบรื่น ซึ่งอ้างอิงว่าประธานสภาญฯไม่ต้องการให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่เป็นการสาดน้ำหรือน้ำมันเข้ากองไฟ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำงานร่วมกันในสภาฯ ซึ่งประธานสภาห่วงใยไม่ต้องการให้ใครตกเป็นจำเลยของสังคมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้
นายศุภชัย ยืนยันที่จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ส่วนกรอบวันเวลาต้องประสานกับคณะรัฐมนตรีในห้วงเวลาที่พร้อมจะชี้แจง ส่วนจะนำไปสู่ปัญหาในการอภิปรายหรือไม่ย้ำว่า สมาชิกแต่ละท่านก็จะต้องรับผิดชอบเองและในฐานะทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมก็จะยึดปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยส่วนตัวเห็นว่า หากต่างคนต่างมุมมองต่างคนต่างคิดก็จะหาจุดลงตัวได้ลำบากอย่างที่ผ่านมาหลีกไม่พ้นที่จะถูกใจฝ่ายหนึ่งแต่อาจจะขัดใจอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องไปแก้ไขในสถานการณ์เฉพาะหน้าต่อไป