OR เคาะราคาสุดท้ายหุ้น IPO 18 บาท เตรียมจัดสรรรายย่อย

เศรษฐกิจ
3 ก.พ. 64
11:09
578
Logo Thai PBS
OR เคาะราคาสุดท้ายหุ้น IPO 18 บาท เตรียมจัดสรรรายย่อย
ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ ‘OR’ ประกาศราคาเสนอขายสุดท้าย IPO ที่หุ้นละ 18 บาท เตรียมจัดสรรหุ้นให้แก่นักลงทุนอย่างทั่วถึง ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ ชี้กระแสตอบรับหุ้น OR คึกคักเกินคาดกว่า 90% จองซื้อผ่านแอปฯ เชื่อตอบโจทย์นักลงทุนรุ่นใหม่

วันนี้ (3 ก.พ.2564) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ ‘OR’ ประกาศราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้น IPO ที่หุ้นละ 18 บาท โดยการจองซื้อหุ้นในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้จองซื้อรายย่อยในประเทศ และนักลงทุนสถาบันชั้นนำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการขายหุ้น IPO ของบริษัทไทย และมูลค่าเสนอขายหุ้น OR ในครั้งนี้ นับเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าสูงเป็นลำดับต้นๆ ของตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะได้รับการจัดเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 ด้วยเกณฑ์ Fast-track ภายใน 3 วันทำการ นับจากวันที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR เปิดเผยว่า การจองซื้อหุ้นสำหรับผู้จองซื้อในประเทศในครั้งนี้เปิดให้มีระยะเวลานานเกือบ 10 วัน เพื่อให้นักลงทุนที่สนใจได้มีโอกาสเข้ามาจองซื้ออย่างเต็มที่ โดยภายหลังการปิดจองซื้อ พบว่ามีผู้จองซื้อรายย่อยแสดงความสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก มีจำนวนรายการที่จองซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายหุ้น 3 ธนาคาร ทั้งช่องทางการจองซื้อที่สาขาและช่องทางออนไลน์รวมกว่า 530,000 รายการ นับว่าเป็นการทำรายการจองซื้อหุ้นที่สูงที่สุด

ธ.กรุงเทพชี้กระแสตอบรับหุ้น OR คึกคัก

ด้านนายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ธนาคารกรุงเทพได้เป็นหนึ่งในช่องทางการจองซื้อหุ้นสามัญ ‘OR’ ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยได้เปิดให้บริการจองซื้อผ่าน 2 ช่องทาง คือผ่านฟีเจอร์ใหม่ “จองซื้อหลักทรัพย์” ด้วยโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และจองซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.2564 จนถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ.2564 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน รวมถึงนักลงทุนทั้งขาประจำและผู้ลงทุนรายใหม่เข้าร่วมจองซื้อหุ้นสามัญ ‘OR’ ผ่านทั้ง 2 ช่องทางเป็นจำนวนมาก

สำหรับผลตอบรับจากการร่วมเป็นช่องทางในการจองซื้อหุ้น OR ของธนาคารถือว่าได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งจากกลุ่มลูกค้าที่ลงทุนเป็นประจำกับธนาคารอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีลูกค้านักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยทำธุรกรรมการจองซื้อหลักทรัพย์กับธนาคารมาก่อนเข้ามาอีกจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากความน่าสนใจของหุ้น OR เอง ที่ธุรกิจเป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไปอยู่แล้ว

นอกจากนี้ การนำหลักเกณฑ์ Small Lot First มาใช้ในการจัดสรรหุ้น ซึ่งสามารถจัดสรรหุ้นให้ครบทุกคนตามจำนวนยอดจองขั้นต่ำที่คนละ 300 หุ้น ก่อนจะจัดสรรเพิ่มเติมในรอบต่อๆ ไป คนละ 100 หุ้น จนครบจำนวนหุ้นที่ได้เสนอขาย ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของ SETTRADE โดยที่ลำดับการจองซื้อก่อนหลังไม่มีผลต่อการจัดสรรหุ้น ทำให้มีความเชื่อมั่นได้ว่านักลงทุนรายย่อยทุกคนมีโอกาสที่จะได้ร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจผ่านการถือหุ้นอย่างทั่วถึงกัน

พบกว่า 90% จองซื้อหุ้นผ่านฟีเจอร์ใหม่

นายทวีลาภ กล่าวต่อว่า ธนาคารยังพบพฤติกรรมของนักลงทุนที่น่าสนใจจากการเป็นตัวแทนจองหุ้น OR ครั้งนี้ โดยพบว่ากว่า 90% ของลูกค้าที่ทำการจองซื้อหลักทรัพย์เข้ามา เลือกจองผ่านฟีเจอร์ใหม่อย่าง “จองซื้อหลักทรัพย์” ของช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ขณะเดียวกัน กว่า 80% เป็นลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งจากธนาคารกรุงเทพเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยทำธุรกรรมจองซื้อหลักทรัพย์มาก่อน

ทั้งนี้ เป็นการสะท้อนถึงพฤติกรรมลูกค้านักลงทุนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีว่ามักจะมองหาช่องทางการลงทุนที่สามารถอำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์แบบขั้นสุด และมีขั้นตอนในการทำธุรกรรมไม่ยุ่งยากซับซ้อน ตัวอย่างเช่น แม้ไม่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ก็สามารถจองซื้อหุ้น OR ในครั้งนี้ได้ นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าอีกเกือบ 10% ของนักลงทุนที่สมัครใช้งานโมบายแบงก์กิ้งเป็นครั้งแรกเพื่อทำรายการจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ในครั้งนี้ด้วย

การอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจองซื้อหลักทรัพย์ผ่านช่องทางดิจิทัลในครั้งนี้ เป็นผลจากการพัฒนาศักยภาพของธนาคารในการทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน จนสามารถเติมเต็ม Digital Experience ให้ลูกค้าได้อย่างดี ทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ธนาคารก็ได้ทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น และได้รับคำแนะนำโดยตรงจากลูกค้า อันจะเป็นประโยชน์พัฒนาบริการโมบายแบงก์กิ้งให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ช่องทางสาขาธนาคารยังมีความสำคัญ

ขณะเดียวกัน ก็ชี้ให้เห็นว่าช่องทางสาขา ยังคงมีความสำคัญมากสำหรับลูกค้าอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุน ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและยินดีลงทุนด้วยยอดเงินที่สูงขึ้น ดังนั้น ธนาคารในฐานะ “เพื่อนคู่คิด” จึงต้องพัฒนาทุกช่องทางไปพร้อมกัน เพื่อตอบโจทย์และอยู่เคียงข้างลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้านักลงทุนรายย่อยที่ทำการจองซื้อหลักทรัพย์ OR กับทางธนาคารไว้ สามารถตรวจสอบผลการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน OR ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.2564 เป็นต้นไปที่ www.settrade.com [https://wwwa2.settrade.com/brokerpage/IPO/automatedRandom/OR/viewrandom.jsp]

สำหรับผู้ลงทุนที่ได้รับจัดสรรหุ้นไม่ครบตามจำนวนที่จองซื้อ หรือไม่ได้รับจัดสรร และ/หรือราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาที่ผู้ลงทุนได้ชำระไว้ ธนาคารจะดำเนินการคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน OR ตามจำนวนเงินส่วนต่าง โดยใช้วิธีการคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ OR ที่ผู้ลงทุนระบุไว้ในใบจองซื้อ หรือโมบายแบงก์กิ้งของธนาคาร โดยมีรายละเอียด ดังนี้ กรณีรับเงินเข้าบัญชี อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 17 ก.พ.2564 ส่วนกรณีรับเป็นเช็ค อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 22 ก.พ.2564

ลูกค้านักลงทุนที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อผ่าน OR Contact Center โทร.1365 หรือ https://investor.pttor.com หรือฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ OR โทร. 0 2196 5037-8, 0 2196-5964, 0 2196 5040-1 รวมทั้งสามารถติดต่อได้ที่บัวหลวงโฟน 1333 หรือโทร. 0 2230 2328, 0 2626 3592 หรือส่งอีเมลมาที่ info@bangkokbank.com โดยระบุ Subject: การจองซื้อหุ้น IPO ของ OR ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

วุ่น! จอง #หุ้นOR ออนไลน์ แอปฯ-เว็บ 3 ธนาคารล่มตั้งแต่เริ่ม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง