วันนี้ (9 ก.พ.2564) นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องวัคซีน COVID-19 ว่า ขณะนี้หลายประเทศไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ ทั้งการระบาดระลอกแรก และการระบาดระลอก 2 ดังนั้นวัคซีนจึงเป็นความหวังที่จะช่วยยั้บยั้งโรค
ส่วนประเทศไทย แม้จะยังไม่ได้รับวัคซีน แต่กลับสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ เป็นเพราะความร่วมมือของประชาชนที่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เช่น การใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ เป็นต้น
สำหรับประเทศที่มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้ว พบว่าอัตราการติดเชื้อมีแนวโน้มลดลงชัดเจน ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 100 ล้านคน โดยวัคซีนป้องกัน COVID-19 ถือเป็นวัคซีนที่วิจัยและผลิตออกมาอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 1 ปี หลังพบเชื้อ COVID-19 เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2563
ขณะที่ประสิทธิผลของวัคซีนนั้น นักวิทยาศาสตร์ทุกคนก็ยังไม่สามารถวางใจได้ 100% แต่ก็ถือว่ามีความปลอดภัย ไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตาม ขณะเดียวกันก็อาจมีบางคนแพ้สารที่อยู่ในวัคซีน แต่ก็ยังสามารถฉีดวัคซีนได้โดยต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
วัคซีนป้องกัน COVID-19 ยี่ห้อไหนดีที่สุด
นพ.วิวัฒน์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก เพราะข้อมูลของแต่ละพื้นที่อาจเหมาะกับวัคซีนบางสายพันธุ์และบางประเทศ ซึ่งหน่วยงานทางการแพทย์ของประเทศนั้นๆ ต้องประเมินว่าควรจะใช้วัคซีนชนิดใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
หากวัคซีนได้ผลในประเทศที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย และมีเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน ก็อาจประเมินได้ว่าวัคซีนน่าจะใช้ได้ผลในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่พบว่ามีประสิทธิผลประมาณ 80-90% สรุปคือมีความปลอดภัยและใช้ได้ผล และขณะนี้การพัฒนาวัคซีนก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
เคยป่วย COVID-19 จำเป็นต้องฉีดวัคซีนหรือไม่
นพ.วิวัฒน์ ระบุว่า หากป่วย COVID-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และไปฉีดวัคซีนซ้ำ จะทำให้วัคซีนได้ผลน้อยมาก เพราะในร่างกายมีความต้านทางที่จะฆ่าวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่ได้รับฉีดเข้าร่างกายจะถูกทำลายและไม่เหลือที่จะไปสร้างภูมิต้านทาน ดังนั้นควรฉีดวัคซีนหลัง 90 วัน
ขณะเดียวกันหากได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เชื้อโรคก็ยังสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ แต่ก็จะถูกระบบภูมิคุ้มกันจับและทำลายเชื้อไป ซึ่งไม่ทำให้เกิดโรค หรือหากมีโรคอยู่ก็ไม่รุนแรง เพราะวัคซีนจะช่วยทำลายเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่กระจายในร่างกาย รวมถึงผู้ที่มีเชื้อในร่างกาย แต่ได้รับวัคซีนแล้วก็มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้ต่ำ
ถ้าฉีดวัคซีนเข้าร่างกายแล้ว ให้ปฏิบัติตนเสมือนว่าตัวเองยังติดเชื้อได้ คือต้องป้องกันตัวเอง
ย้ำฉีดวัคซีนให้คนไทยต้องปลอดภัยและได้ผล
นพ.วิวัฒน์ ระบุอีกว่า หากวัคซีนไม่มีความปลอดภัยก็ไม่สามารถฉีดได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยก่อน แต่ถือเป็นความโชคดีที่วัคซีนที่ผลิตและนำเข้า ประเทศไทยไม่ได้ทดลองฉีดเป็นชาติแรก ดังนั้นจึงจะเห็นจากประเทศที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว หากพบปัญหาหรือมีอันตรายก็จะหยุดและยับยั้งการใช้งาน รวมถึงหากไม่ได้ผลก็จะหยุดใช้งานด้วยเช่นกัน เพราะจะเกี่ยวพันถึงผลกระทบเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าเสียโอกาส
ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจ หากมีการนำวัคซีนมาใช้งานต้องได้ประโยชน์และต้องได้ผล ยืนยันได้จากใบรับรองการทดสอบวัคซีนขั้นที่ 3 ซึ่งเป็นการทดลองกับประชาชนทั่วไป