จับผู้ต้องหาหลอกลวงลงทุน 2 คดี เสียหายรวมกว่า 500 ล้าน

อาชญากรรม
10 ก.พ. 64
12:44
1,345
Logo Thai PBS
จับผู้ต้องหาหลอกลวงลงทุน 2 คดี เสียหายรวมกว่า 500 ล้าน
ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุน 2 คดี มูลค่าความเสียหายโดยรวมเกือบ 500 ล้านบาท เร่งติดตามผู้ต้องหาหลบหนี

วันนี้ (10 ก.พ.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวจับกุมคดีที่เกี่ยวกับการการฉ้อโกงประชาชน

 

คดีแรกสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาหลอกลวงผู้เสียหายลงทุนผ่านเกมส์ออนไลน์เกมหนึ่งโดยใช้กลลวงให้ผู้เสียหายสมัครลงทุนซื้อสุนัขในเกม ซึ่งผู้เสียหายจะต้องโอนเงินเพื่อเปิดบัญชี หลังจากนั้นจะแนะนำให้ขายสุนัขต่อให้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ลักษณะคล้ายขายไอเทมเกมและจูงใจว่าผู้เสียหายจะได้กำไร 8 - 40 % จากการขายสุนัขต่อให้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินลงทุนตามคำจูงใจ จนผู้ก่อเหตุได้เงินจำนวนมากตัดขาดการติดต่อ ซึ่งคดีนี้มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าร้องต่อศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจติดตามจับตัวผู้ต้องหาได้ แล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหาอีก 1 คน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

 

 

ส่วนคดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา ได้ 3 คน ซึ่งหลอกลวงผู้เสียหายให้ลงทุนธุรกิจในเครือบริษัทยาแห่งหนึ่ง ใช้ชื่อกลุ่มลงทุน ในชื่อธุรกิจ S Club มีผู้เสียหายกว่า 400 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 400 ล้านบาท โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ชักชวนให้เข้าร่วมสัมมนาและหลอกให้ร่วมลงทุน กล้าวอ้างว่า เป็นบริษัทที่พาลูกค้าไปเดินชม และเล่นพนัน CASINO ทั่วโลก มีรายได้จากการปันผลส่วนแบ่งจากค่าตอบแทนที่ได้รับจากคาสิโนทุกรอบการลงทุน เริ่มตั้งแต่ 21,000 - 5,000,000 บาท ซึ่งจะนำเงินมาปันผลให้ร้อยละ 10.5 ต่อเดือนหากชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุน หรือ เป็นในลักษณะดาว์นไบน์ก็จะได้ค่าตอบแทนสูงขึ้นในอัตรา 5-15 % มีค่าบริหารทีม 8-10 % ทั้งยัง มีการจัดโปรโมชั่นแจกทอง รถยนต์ ท่องเที่ยวในและต่างประเทศด้วย

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า ทั้ง 2 คดี เป็นการหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนในสิ่งที่ได้รับผลตอบแทนสูงเกินจริง ซึ่งหากชักชวนให้มีผู้ร่วมลงทุนเพิ่มก็จะได้ผลกำไรเพิ่มอีก ซึ่งทั้งหมดมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งการได้เงินมาโดยง่ายไม่มีอยู่จริงและไม่น่าเชื่อถือ หลังจากนี้ก็จะให้ ปปง.ดำเนินการตรวจสอบสืบหาทรัพย์ผู้ก่อเหตุเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาเข้ากระบวนการก่อนจะเฉลี่ยคืนสู่ผู้เสียหายให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง