DSI บุกรวบ "โมเดลลิ่ง" เครือข่ายปล่อยภาพลามกเด็กระดับโลก

อาชญากรรม
11 ก.พ. 64
09:33
989
Logo Thai PBS
DSI บุกรวบ "โมเดลลิ่ง" เครือข่ายปล่อยภาพลามกเด็กระดับโลก
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ บุกตรวจค้นบ้านพักย่านคลองสาม จ.ปทุมธานี พร้อมจับกุมผู้ต้องหาเจ้าของบริษัทโมเดลลิ่ง เครือข่ายปล่อยภาพลามกเด็กแหล่งใหญ่ระดับโลก พบหลักฐานไฟล์ภาพถ่ายและวิดีโอกว่า 500,000 รายการ

วันนี้ (11ก.พ.2564) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านย่านคลองสาม จ.ปทุมธานี ซึ่งเปิดเป็นบริษัทโมเดลลิ่ง มีพฤติกรรมหลอกลวงเด็กมากระทำอนาจาร และมีความพยายามจะข่มขืนล่วงละเมิดเด็ก


พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับเรื่องจากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police) เกี่ยวกับบุคคลสัญชาติไทยที่อาจมีพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในพื้นที่ กทม. โดยได้รับข้อมูลเป็นภาพถ่ายโป๊เปลือยเด็กเพียงภาพเดียว จนนำมาสู่การปฏิบัติการแบบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ ซึ่งการสืบสวนตรวจภาพหาเบาะแสผู้ต้องหาคนหนึ่งได้ เมื่อกลางปี 2563

จากนั้นได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีในการตรวจวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูลจากองค์กร Operation Underground Railroad (O.U.R.) มาโดยตลอด กระทั่งทราบเบาะแสว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกอยู่ใน จ.ปทุมธานี นำสู่การขอหมายจับและบุกตรวจค้นจับกุมในวันนี้ โดยผลการตรวจค้นภายในบ้านพักที่ตั้งเป็นบริษัทชื่อเนเน่ โมเดลลิ่ง พบวัสดุ อุปกรณ์ จำพวกกล้องภ่ายภาพ จัดเซ็ตเป็นสตูดิโอ และพบไฟล์ภาพถ่าย วิดิโอ เด็ก จำนวนอย่างน้อย 500,000 รายการ

ฝากถึงผู้ปกครองหากจะนำบุตรหลานเข้าร่วมงานกับบริษัทโมเดลลิ่งต่าง ๆ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบ หรือตรวจสอบผลงานบริษัทนั้น ๆ ย้อนหลัง เพื่อประกอบการพิจารณาความน่าเชื่อถือ


ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุอีกว่า บริษัทนี้ถือเป็นโมเดลลิ่งเด็กที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาตามหมายจับยอมรับว่า เป็นเจ้าของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าว ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, กระทำชำเรา และพยายามกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร


นอกจากการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้มีการประสานกับองค์กรเอกชนไม่แสวงผลกำไร ได้แก่ องค์กร Operation Underground Railroad (O.U.R.), มูลนิธิเอ-ทเวนตี้วัน (A21 Foundation), องค์กร LIFT International, มูลนิธิพิทักษ์สตรี (AAT), TCLS Legal Advocate และศูนย์กฎหมายเพื่อสังคม เพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงช่วยในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง