วันนี้ (15 ก.พ.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุตำรวจควบคุมฝูงชนปะทะกับผู้ชุมนุมรวมถึงปฏิบัติการสลายการชุมนุมในคืนวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าตำรวจได้จับผู้ชุมนุมไป 8 คน และจับผู้เมาสุราในพื้นที่ที่มีการชุมนุมไป 3 คน ซึ่งในกลุ่มผู้เมาสุรานั้น พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับและปล่อยตัวไปแล้ว ส่วนผู้ถูกควบคุมตัว 8 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอฝากขังตามขั้นตอน
รอง ผบช.น. ระบุว่าในจำนวน 8 คนมีผู้ถูกจับ 1 คน ที่อ้างตัวว่าเป็นอาสาสมัครของทีมแพทย์ที่เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งจากคลิปภาพพบมีการกระทำในลักษณะทำร้ายชายที่นอนอยู่บนพื้นถนน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบกับตำรวจชุดปฏิบัติการ
ภายหลังที่ควบคุมตัวไป ตชด.ภาค 1 แล้ว เบื้องต้นมีการตรวจสอบประวัติไม่พบความเกี่ยวข้องกับสถาบันทางการแพทย์และไม่มีข้อมูลรับรองการฝึกอบรมตามหลักสูตรทางการแพทย์ หรือ แพทย์อาสา
โดยในวันนี้แพทยสภาได้ออกมาแถลงข่าวแล้วว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่แพทย์อาสาในระบบของ แพทย์สภา ซึ่งหลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเตรียมจัดระเบียบ กลุ่มแพทย์อาสาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ป้องกันการกล่าวอ้าง เพราะที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีบุคคลที่เข้าไปร่วมการชุมนุม และอ้างตัวเป็นผู้สื่อข่าวบ้าง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยงานต่าง ๆ บ้างและอ้างเป็นแพทย์หรือพยาบาลอาสา ทำให้การทำงานของตำรวจมี ปัญหาตามไปด้วย
ยืนยันว่าตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจในข้อละเว้นต่อบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงสื่อมวลชน แต่ขอให้ติดตราสัญลักษณ์แสดงตัวให้ชัดเจนและเป็นไปตามแบบฉบับสากล
นอกจากนี้ยังระบุถึงภาพชายสวมเสื้อแขนยาวสีดำและสวมเสื้อกั๊กสีเขียวยืนอยู่ในท่าง้างมือเตรียมขว้างพลุไฟ ด้วยว่าเป็นสิ่งยืนยันว่าเสื้อกั้กเขียวมีการสวมใส่โดยทั่วไปในผู้ชุมนุมอาจเพราะทำให้ง่ายต่อการมองเห็นในเวลากลางคืน ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการแยกกลุ่มหน่วยงานหรือกลุ่มบุคคล จึงแนะนำควรพิจารณาสวมใส่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะนี้ตำรวจสืบสวนอยู่ระหว่างสืบหาเบาะแสเพื่อตามตัวชายในภาพมาสอบสวน
ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ใช้ปืนพกประจำกายยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัดพร้อมกับยืนยกเล็งปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ว่าเบื้องต้นยืนยันเป็นตำรวจนครบาลนางเลิ้งจริง คาดว่าเป็นการยิงข่มขู่กลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่ายที่มะเลาะวิวาทกับอีกกลุ่ม เกิดเหตุหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้ สน. ซึ่งตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 1 คน โดยคาดว่ากลุ่มวัยรุ่นที่พยายามจะเข้าไปใน สน. เป็นฝ่ายคู่อริ ของชายที่ถูกตำรวจจับมาก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างเรียกสอบสวนข้อเท็จจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีม DNA แจงปมไม่ใช้ "เครื่องหมายกาชาด" วันม็อบ 13 กุมภา