ชาวเมียนมาเดินหน้าประท้วงต่อ ไม่หวั่นเหตุรุนแรง

วันนี้ (15 ก.พ.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงส่วนหนึ่งเข้าไปยืนรอบๆ รถหุ้มเกราะของทหารเมียนมา ที่นำมาจอดประจำการคุมพื้นที่บริเวณธนาคารกลางในนครย่างกุ้ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวเมียนมาและเจ้าหน้าที่รัฐบาลร่วมเคลื่อนไหวด้วยวิธีอารยะขัดขืน และขอให้กองทัพปล่อยตัว ออง ซาน ซู จี และยุติระบอบเผด็จการ

 

ส่วนกลุ่มผู้ประท้วงอีกส่วนหนึ่งไปร่วมชุมนุมบริเวณใกล้ๆ กับสำนักงานใหญ่ของพรรคเอ็นแอลดีในนครย่างกุ้ง โดยมีตำรวจวางแนวกั้นปิดถนนในพื้นที่และตรึงกำลังคุมเข้มรักษาความปลอดภัย ขณะที่สื่อเมียนมา รายงานว่า ตำรวจอีกส่วนหนึ่งพยายามเข้าไปในที่ทำการพรรคในระหว่างที่แกนนำระดับสูงของพรรคส่วนหนึ่งกำลังหารืออยู่ภายใน

 

ขณะที่บริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตจีนในนครย่างกุ้ง ยังคงมีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารไปปักหลักชุมนุมกัน ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาดังเช่นหลายวันก่อนหน้านี้

นศ.เมียนมา เรียกร้องผู้นำจีนให้การสนับสนุน

ด้านสื่อท้องถิ่น รายงานว่า แกนนำสหภาพนักศึกษาจาก 18 มหาวิทยาลัย ส่งจดหมายเปิดผนึกไปถึง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เรียกร้องให้จีนสนับสนุนประชาชนในการยุติการปกครองโดยกองทัพและคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือน รวมทั้งเรียกร้องไม่ให้จีนให้การรับรองรัฐบาลทหาร

 

ส่วนการประท้วงที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนออกไปรวมตัวกันบริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง และชุมนุมบริเวณด้านหน้าธนาคารเศรษฐกิจเมียนมา

 

โดยล่าสุดสื่อเมียนมา รายงานว่า ทหารและตำรวจได้ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง รวมทั้งยิงปืนเข้าใส่บ้านเรือนของประชาชนและกลุ่มผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ไปแล้ว

ทนายความเผย "ซู จี" ถูกควบคุมตัวถึงวันพุธนี้

ขณะที่กลุ่มชาวเมียนมาที่มาเฝ้ารอ ซู จี บริเวณด้านหน้าศาลในกรุงเนปิดอว์ ต่างต้องผิดหวัง หลังจากทนายความที่พรรคเอ็นแอลดีแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนซู จี เปิดเผยหลังหารือกับผู้พิพากษาศาลว่า ซู จี จะถูกควบคุมตัวต่อไปจนถึงวันที่ 17 ก.พ.นี้ แม้ว่าตามกำหนดการเดิมระยะเวลาในการควบคุมตัวจะสิ้นสุดลงในวันนี้ก็ตาม

 

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยด้วยว่าการเริ่มไต่สวนในชั้นศาลของนางซู จี และนายวิน มินต์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมา จะจัดผ่านระบบประชุมทางไกลในวันที่ 16-17 ก.พ.นี้

กองทัพเมียนมาขู่ลงโทษจำคุกผู้ประท้วงสูงสุด 20 ปี

ส่วนท่าทีล่าสุดของกองทัพในวันนี้ได้มีการเปิดเผยแถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า ผู้ที่ใช้คำพูด เขียนข้อความหรือแสดงออกใดๆ ที่สร้างให้เกิดความเกลียดชัง หรือความไม่พอใจต่อรัฐบาล หรือกองทัพ อาจต้องโทษจำคุก ซึ่งมีทั้งโทษปรับและจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี