วันนี้ (17 ก.พ.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนหนึ่งว่า พบว่าปรากฏการณ์ในสังคมมีความรุนแรงขึ้น ทั้งคนชกต่อยกัน เอาปืนมายิงกัน จึงท่านต้องการให้เกิดแบบนี้ เพราะถ้ายุแหย่จนชินกับความรุนแรง ชินกับการใช้กำลัง ชินต่อการต่อต้านกฎหมายแล้วจะอยู่กันอย่างไร แล้วจะมีความสุขนั่งตรงนี่หรือไม่ ตอนนี้ทุกคนทำงานเต็มที่บริหารจัดการบังคับใช้กฎหมาย ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เขาด้วย กรณีอยูในกฎหมาย รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่ให้ละเมิดสิทธิคนอื่น และถ้าจะชุมนุมก็ว่าไป แต่อย่าใช้ความรุนแรง แต่ที่เห็นมีทุกอย่าง
อย่าปฏิเสธผม ใครทำผมไม่รู้ แต่ผมก็เห็นว่าเขาเป็นคนไทย เป็นผู้ร่วมชาติของผม แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดแบบนั้นผมหรือเปล่า แผ่นดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ เจตนาดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการใช้งบประมาณที่รัฐบาลต้องดูแลหนี้สาธารณะ เงินกู้ต่าง ๆ รวมถึงต้องจ่ายผลการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐชดเชยไปแล้วกว่า 750,000 พันล้านบาท เหลือหนี้จำนำข้าวอีกกว่า 280,000 ล้านบาท และต้องตั้งงบชดใช้ไปอีก 12 ปี
แจงปมเป็นหนี้สาธารณะพุ่ง
นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้จากโครงการบ้านเอื้ออาทร อีกกว่า 20,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงต้องการชี้แจงให้ทราบว่าได้ดำเนินการอะไรอยู่บ้าง และพยายามทำอย่างเต็มที่ทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายมา รัฐบาลไม่ต้องการรีดภาษีจากใคร และไม่ปรับขึ้นภาษี โดยเฉพาะช่วงนี้ที่รายได้ประเทศลดลง
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าให้ความช่วยเหลือประชาชนไม่ทั่วถึง วันนี้เป็นการช่วยเหลือเพื่อให้ประชาชนดำรงชีพอยู่ได้ และที่ให้ไปเพื่อไปใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนการใช้เงินในระบบ เกิดมูลค่าเพิ่มการใช้จ่ายในระดับฐานราก วันนี้ทุกคนต้องอยู่อย่างพอเพียง และรัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนการลงทุนให้มีศักยภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับการใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชา ชนCOVID-19 ให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มเกษตร ผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ แรงงานในระบบประกันสังคม กลุ่มเปราะบาง 570,000 ล้านบาท และวันนี้มีโครงการเราชนะ อาจจะติดขัดเรื่องการใช้งบบ้าง จึงต้องทยอยดำเนินการ มั่นใจว่ารัฐบาลบริหารจัดการได้ดี แม้จะมีคนบางกลุ่มเข้าไม่ถึง ก็เร่งแก้ปัญหา และติดตามปัญหาโดยตลอด
วันนี้อยู่ในโครงการเราชนะ ใครชนะ ใครแพ้ผมไม่รู้ คำว่าชนะไม่ใช่ให้ผมอยู่ ให้ผมชนะมีอำนาจ แต่พูดกันจริงคำว่าอำนาจ อยู่กันด้วยความเข้าใจไม่ดีหรือ อยู่ในความร่วมมือกัน เพื่อใคร เพื่อประเทศทุกคนที่อ้างว่ารักประชาชน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในการแก้ปัญหานี้ ถือว่าเราบริหารจัดการเรื่องนี้ดี ได้รับคำชม อาจจะมีบางกุล่มราเข้าไม่ถึง แต่ได้แก้ปัญหากัน และมีเวลาที่พอและมีการขยายจุด ซึ่งยืนยันว่าปัญหาของประชาชนผมตามตลอด แต่เราจะอยู่แบบง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้
จัดหาวัคซีนเพื่อประชาชน
ส่วนการจัดหาวัคซีนต้องการดูแลประชาชน และการจัดซื่อวัคซีน ก็มีช่องทาง และต้องอยู่ในการควบคุมของรัฐก่อน ท่านกล้าฉีดหรือไม่ และในห้องนี้ก็บอกว่าไม่อยากฉีด ให้ส่งชื่อมา ทั้งนี้ในการชุมชนุมหนาแน่นอย่าให้เกิดการแพร่ระบาดอีก และขอให้มั่นใจรัฐบาลตัดสินใจรอบคอบ และมีประชาชนเป็นที่ตั้ง ศึกษา ระเบียบทุกอัน ถ้าแค่เปิดกูเกิ้ลแล้วเอาราคามาถียงกัน มีโครงการพ่วงมาหมด
ท่านไม่ชอบผมไม่เป็นไร แต่ท่านไม่ชอบประเทศ ของท่านไม่ควร เพราะประชาชนก็คือประชาชนของเราที่เราต่างฝ่ายก็รักกันรักกันทั้งคู่ คำว่ารักประชาชนต้องไม่เลือกว่าใครเป็นใคร แต่กฎหมายเป็นคนดำเนินการให้ทุกคนอยู่ในปกติในประเทศไทย
ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย แบบไหนต้องมีกฎหมาย ทำให้สังคมสงบเรียบร้อย อันศึกนอกศึกไกล ไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกในไล่ข่มเหง หาคนไทยหันมาฆ่ากันเอง เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ประยุทธ์" ลั่นซื้อเรือดำน้ำสุดคุ้ม-ฝ่ายค้านกรีดซ้ำ "รัฐบาลชิงโชค"
"สุริยะ" ปัดให้อาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ แลกถอนฟ้อง