“วราวุธ” สั่งกรมอุทยานฯ ดำเนินคดี "ค้าสัตว์ป่าออนไลน์" ถึงที่สุด

สิ่งแวดล้อม
19 ก.พ. 64
20:28
750
Logo Thai PBS
“วราวุธ” สั่งกรมอุทยานฯ ดำเนินคดี "ค้าสัตว์ป่าออนไลน์" ถึงที่สุด
รมว.ทส.สั่งกรมอุทยานฯ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังทีมพญาเสือจับผู้ค้าออนไลน์พร้อมซากสัตว์ป่าอื้อ ที่ จ.พัทลุง

วันนี้ (19 ก.พ.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) พร้อมสายตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายด้านสัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด สำนักสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) และ กก.6 บก.ปทส. เข้าจับกุมผู้ค้าออนไลน์ ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ว่า

เมื่อได้รับรายงานแล้วเห็นหลักฐานรู้สึกหดหู่ใจ กับการที่คนบางกลุ่ม ไม่ตระหนักถึงอันตรายที่สัตว์ป่าอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคได้ อีกทั้งขณะนี้ทั่วโลกก็มีกระแสโรคโควิด-19 ก็เพราะผู้คนที่ไม่เคารพขอบเขตของคนและสัตว์ป่า ทำไมจึงยังไม่ตระหนักในข้อนี้

 

แม้เห็นโลงยังไม่หลั่งน้ำตาอีกหรือ และคงยังไม่เข้าใจถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอีกหรือ อันที่จริงพวกคุณไม่มีสิทธิไปเอาชีวิตเขา และขอฝากถึงกลุ่มคนที่มีความคิดแปลกๆ ที่มีการอ้างเรื่องการใช้วิชาอาคมขอให้เลิกเสีย อย่าเห็นแก่ตัว หากเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ขอให้คิดถึงลูกหลานรุ่นต่อๆไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดำเนินคดีในกรณีนี้ให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯแห่งชาติฯ สนธิกำลัง จับกุมนายธนสิทธิ์ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ จ.ราชบุรี ในข้อหาค้าและครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

 

ต่อมาได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนจับกุมเครือข่ายค้าซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครอง ผ่านช่องทางออนไลน์ คือ นายสิทธิชัย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 7 ต.ร่มเมือง อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง

พบของกลาง ซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครอง 31 รายการ แยกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง นกหว้า 1 ตัว นกอีโก้ง 7 ตัว และซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ หัวเลียงผาพร้อมเขา 14 หัว หัวนกเงือก 13 ชิ้น หนังเสือไฟ 3 ผืน หนังเสือดาว 1 ผืน หนังเสือลายเมฆ 1 ผืน หนังเสือโคร่ง 3 ชิ้น/แผ่น หนังแมวดาว 2 ชิ้น/แผ่น

หนังเสือลายเมฆ 2 ชิ้น/แผ่น หนังเสือดาว 2 ชิ้น/แผ่น หนังเสือไฟ 1ชิ้น/แผ่น หนังหมีควาย 1 ผืน หนังหัวหมีหมา 1 ชิ้น/แผ่น หนังหมี 46 ชิ้นแผ่น อุ้งตีนหมี 1 ชิ้น เล็บหมี 2 ชิ้น ซากเต่า(กระดอง) 6 ตัว ซากกระโหลกจระเข้ 8 ซาก ซากกระโหลกเลียงผา 1 หัว เขากระทิง 1 ชิ้น ปลาโรนิน 1 ชิ้น เขาเก้งพร้อมหัวเก้ง 6 ชิ้น ซากลิ่นชวา 1 ตัว หนังช้าง 7 แผ่น เขาเลียงผา 41 ชิ้น ขนนกหว้า 43 เส้น ซากเขากวาง 5 หัว กรามช้าง 8 ชิ้น หางช้าง 1 ชิ้น และปลายงวงช้าง 2 ชิ้น

 

ตั้งข้อหากระทำตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

1.ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากสัตว์ป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม มาตรา 17 มาตรา 92 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ฐาน “ค้าซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตาม มาตรา 29 มาตรา 89 ว.1 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 89 ว.2 ถ้ากระทำต่อซากสัตว์ป่าสงวน ต้องระวางโทษจำคุก 3-15 ปี หรือ ปรับสามแสนถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง