วันนี้ (22 ก.พ.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า การประชุมในวันนี้เป็นการหารือแผนปฏิรูปยุทธศาสตร์ชาติโดยต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน บางคนถามว่าทำไมต้อง 5 ปี 10 ปี 20 ปี หลายอย่างเป็นงานโครงสร้างต้องใช้เวลา ส่วนงานที่ต้องดำเนินการตามตามกรอบเวลาของกฎหมายก็ต้องทำทุกประการ ทั้งยังได้รับฟังสภาเกษตรกร และผู้ประกอบการการค้า การท่องเที่ยว เพื่อให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้โลกเป็นสีเขียว
สำหรับเรื่องที่อภิปรายในสภาก็รับฟังทั้งหมด อะไรที่มีปัญหาต้องแก้ไข ขอให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลด้วย อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรถูกก็ขอให้นำเสนอด้วย ส่วนควันหลงเป็นเรื่องการเมือง ไม่ได้ให้ความสำคัญ แค่สนใจเพียงว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่ละกระทรวงจะทำงานอย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ เรื่องทุจริตก็ต้องสอบสวนกันไป เรื่องของพรรคก็เป็นปัญหาพรรค ซึ่งเป็นเช่นนี้มาตลอด ไม่ได้ตำหนิใคร
เรื่องการชุมนุมถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ชุมนุมไป แต่ถ้าผิดกฎหมายหรือมีความรุนแรงก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย
นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังได้สอบถามถึงคะแนนการอภิปรายไม่ไว้วางใจและสอบถามว่าได้รับโทรศัพท์จากใครหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ไม่ได้รับโทรศัพท์จากใคร หลังเลิกการประชุมก็ไม่ได้สนใจว่าใครได้เท่าไหร่ ขออย่านำเรื่องนี้มาเป็นเรื่องขัดแย้ง การลงมติเป็นเรื่องของพรรค ถ้าใครไม่ทำก็เรื่องของเขา จะไปยุ่งอะไรได้ มากหรือน้อยไม่สำคัญ
ผมไม่สนใจคะแนน ผมได้น้อยก็ไม่แคร์อะไร แค่ผ่านอภิปรายไปก็จบ เพราะผมผ่าน แต่งานหลายกระทรวงผมสั่งการเยอะ เพื่อเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ องค์กร บุคลากร ระดับยุทธศาสตร์ผมจำเป็นต้องให้ปรับแต่ก็ต้องไปว่ากันในสภา อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องขัดแย้ง
ส่วนกระแสการปรับ ครม.นั้น นายกฯ ระบุว่า "กระแสเธอปลุกปั่นขึ้นมาเอง เราไม่เคยพูด เธอจับมาเป็นประเด็นทุกเรื่องก็ไม่ได้ จะแซวกันก็เป็นเรื่องภายใน ไม่ได้เหรอ ผมถือเป็นมติสภา ถ้าเขาไว้วางใจก็จบ"
ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวถึงเรื่องวัคซีนป้องกัน COVID-19 โดยระบุว่า เป็นที่น่ายินดีที่มีการยืนยันแล้วว่าจะเข้ามาในวันที่ 24 ก.พ.นี้ โดยจะไปร่วมรับด้วยเพื่อสร้างความมั่นใจ และในเร็ววันนี้จะมีวัคซีนเข้ามาอีก ซึ่งแต่ละประเภทเหมาะกับคนบางกลุ่ม โดยสถาบันวัคซีนรับดูแลอยู่แล้ว ส่วน ศบค.บ่ายนี้จะมีการประชุมเพื่อคลายล็อกให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้