จี้นายกฯ เร่งแก้ปัญหาบางกลอย "ประยุทธ์" ยันจะไม่ให้รุนแรง

สิ่งแวดล้อม
23 ก.พ. 64
16:54
731
Logo Thai PBS
จี้นายกฯ เร่งแก้ปัญหาบางกลอย "ประยุทธ์" ยันจะไม่ให้รุนแรง
คนเมืองเพชรฯ กลุ่มเซฟแก่งกระจาน จี้นายกฯ แก้ปัญหาบางกลอย-ใจแผ่นดิน ขู่ รวมตัวบุกทำเนียบฯ หากไม่คืบหน้า ด้าน “ประยุทธ์” ระบุ จะไม่ให้เกิดความรุนแรง

วันนี้ (23 ก.พ.2564) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพชรบุรี นายสุรพล นาคนคร ประธานองค์กรอนาคตเพชรบุรี นายเกียรติศักดิ์ กล่องสกุล กลุ่มดูนกเพชรบุรี เครือข่ายอนุรักษ์แม่น้ำเพชร นางอุไร เหลือเอก กลุ่มคนเพชรรักษ์ป่า นายนิวัฒน์ มั่นหมาย ประธานเครือข่ายทสม.จ.เพชรบุรี

ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อคัดค้าน ข้อตกลงการแก้ไขปัญหาบางกลอย-ใจแผ่นดิน ระหว่างตัวแทนรัฐบาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภาคีเซฟบางกลอย ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย โดยมี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ

น.ส.สุมลกล่าวว่า จากการที่ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนแล้ว แต่กลับยังเกิดเหตุการณ์กระทำผิดกฎหมายมาตรา 19 (1) แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ที่เข้ายึดถึงครอบครองที่ดิน แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำการใด ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม

จี้ ขรก.ดำเนินการตามกฎหมาย

ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินคดีอาญา ต่อผู้กระทำผิดกฎหมาย ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำผิดกฎหมายเสียเอง ตามมาตรา157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขณะเดียวกันเรายังมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ระบุชัดว่า ไม่อนุญาตให้ผู้ใด ขึ้นไปอยู่อาศัยและดำรงวิถีชีวิตวัฒนธรรมดั้งเดิม ตามที่ถูกกล่าวอ้างได้

เราชาวเพชรบุรีจึงขอย้ำว่า หากภาครัฐและภาคประชาชน ยังคงปฏิบัติตามบันทึกของตกลงฉบับดังกล่าวแล้ว ชาวเพชรบุรีจะเแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เพราะถือว่ากระทำผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 อย่างแน่นอน

ในฐานะคนเพชรบุรี พร้อมตัวแทน ภาคีเครือข่ายอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพชรบุรี ขอแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายผืนป่าแก่งกระจาน

"ประยุทธ์" ยืนไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น

ด้าน พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีความขัดแย้งในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานว่า เป็นห่วงมาโดยตลอด รัฐบาลทำเต็มที่ วันนี้ยืนยันว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนในอดีต แต่จะว่าด้วยกฎหมาย พยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง และจะดูแลชาวบางกลอยให้มีที่อาศัยและที่ทำกิน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะย้ายลงมาหลายปีแล้ว ก็จะต้องดูแลทุกจุด

การจะไปสร้างความขัดแย้ง โดยมุ่งหวังผลประโยชน์อย่างอื่น ผมว่าไม่สมควร แก้ไปแล้วครั้งที่หนึ่งก็เกิดปัญหาซ้อนขึ้นมา ก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ไปด้วย ก็ต้องทำไม่ให้เกิดอีก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า หลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารที่ดิน ก็แก้กันทุกวัน ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น เพราะรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว และมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ก็ต้องค่อยๆ แก้ไปด้วยวิธีการที่เหมาะสม แต่ยืนยันว่าจะทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

กรมอุทยานฯ จะเจรจาต่อไป ยืนยันสันติวิธี

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจากับชาวบ้านบางกลอยบน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายนอแอ๊ะ มีมิ ลูกชายของ ปู่คออี้ หนึ่งในชาวบ้านที่เดินทางขึ้นไปอยู่บนใจแผ่นดิน และยังไม่ลงมาคุยกัน

นายจตุพรยืนยันว่า จะเดินหน้าเจรจาต่อไป จนกว่าชาวบ้านอีกประมาณ 20 คนจะยอมลงมาเจรจา เพื่อหาทางออกบนโต๊ะเจรจา โดยจะยึดรูปแบบสันติวิธี ไม่ใช้กำลังอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการให้ปัญหาบานปลาย

เชื่อว่าทุกอย่างมีทางออก ตอนนี้ไม่อยากให้มีคนอื่นๆ หรือกองเชียร์ มาทำให้เกิดปัญหา ขอให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าอยู่กับกองเชียร์ ขอให้อยู่กับคู่เจรจา กองเชียร์ขอให้อยู่สงบก่อน

เมื่อถามว่ากรณีวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง เรื่องการทำไร่หมุนเวียน อาจจะเป็นเงื่อนไขเจรจาหรือไม่ ปลัดทส.กล่าวว่า ขณะนี้ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ วิถีชีวิตของชาติพันธุ์อยู่กับป่าได้ แต่กรณีของใจแผ่นดินยังขอให้ยึดตามคำสั่งศาลปกครอง เมื่อปี 2561 ไม่ให้กลับไปอยู่บางกลอยบน ซึ่งหากที่นี่อยู่ได้ แล้วป่าอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกันจะปฏิบัติอย่างไร

ไม่อยากให้หยิบเหตุการณ์อื่นๆ ในอดีตมาโยงกัน และจะเอาชนะด้วยเรื่องนี้ แต่ขอให้เอาเรื่องข้อเท็จจริงมาพูดกัน มาอยู่บนโต๊ะเจรจา ทส.พร้อมสนับสนุนทุกอย่างภายใต้กฎหมาย ซึ่งทุกพื้นที่ก็ทำแบบนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง