"จิสด้า" ชี้ทั่วไทยพบ Hotspot 4,500 จุดเริ่มเผาพื้นที่เกษตร

สิ่งแวดล้อม
1 มี.ค. 64
16:32
374
Logo Thai PBS
"จิสด้า" ชี้ทั่วไทยพบ Hotspot 4,500 จุดเริ่มเผาพื้นที่เกษตร
จิสด้า เผยทั่วไทยเริ่มพบจุดความร้อน (Hotspot ) 4,500 จุดสูงสุด กาญจนบุรี ลำปาง ตาก ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่เกษตร คาดมาจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ขณะที่บ่ายนี้ พบ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ระดับ 139 มคก.ต่อลบ.ม.

วันนี้ (1 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสาร สนเทศ (GISTDA) เผยข้อมูลภาพจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนทั้งประเทศมากถึง 4,504 จุด พบมากสุดในพื้น ที่ป่าอนุรักษ์ 2,017 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,511 จุดพื้นที่เกษตร 382 จุด พื้นที่เขต สปก. 338 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 239 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 17 จุด

ข้อมูลภาพจากดาวเทียม พบว่าจุดความร้อนที่เกิดขึ้นมีการจุกตัวอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันตก  จ.กาญจนบุรี พบจุดความร้อนมากที่สุด 646 จุด รองลงมาเป็น จ.ลำปาง 465 จุด และจ.ตาก 344 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เกษตร

เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ และเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร ส่วนสถานการณ์ลมที่พัดปกคลุมไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง ทำให้การสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง พบมากสุดในเมียนมาสูงถึง 4,398 จุด และกัมพูชา 1,187 จุด ทำให้พื้นที่ที่อยู่บริเวณตะเข็บชายแดนดังกล่าว ต้องเฝ้าระวังด้านหมอกควันที่อาจพัดข้ามแดนเข้ามาได้อย่างต่อเนื่องและอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

"ลำปาง-ตาก" นำโด่ง PM 2.5

นอกจากนี้ ข้อมูลภาพจากดาวเทียมฮิมาวาริ (Himawari) และดาวเทียมอื่นๆ ของระบบการติดตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในช่วงเวลา 13.00 น. พบค่าคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) สลับกับค่าคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะหนักสุด ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบเห็นกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ เช่นกัน ทั้งนี้พบค่าคุณภาพอากาศ (AQI) ที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงและต้องจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่บางส่วนของจังหวัดต่างๆมีดังนี้

  • บริเวณ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ระดับ 139 มคก.ต่อลบ.ม.
  • อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ระดับ 137 มคก.ต่อลบ.ม.
  • บริเวณ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ที่ระดับ 126 มคก.ต่อลบ.ม.
  • บริเวณ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ที่ระดับ 97 มคก.ต่อลบ.ม.
  • บริเวณ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ที่ระดับ 94 มคก.ต่อลบ.ม.
  • บริเวณ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ที่ระดับ 93 มคก.ต่อลบ.ม.
  • บริเวณ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ระดับ 93 มคก.ต่อลบ.ม.

สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ และเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร ประกอบกับช่วงนี้ปริมาณจุดความร้อนที่เกิดขึ้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสภาพอากาศที่มีกำลังลมค่อนข้างอ่อนจนถึงสงบนิ่งในบางพื้นที่ ส่งผลให้หมอกควันผนวกกับฝุ่นละอองสะสมตัวเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ควรใส่ผ้าปิดจมูกไว้ตลอดเวลาเมื่อออกที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะเกิดขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง