วันนี้ (1 มี.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ปฎิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าฯ นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องภาครัฐ-เอกชน ร่วมกันปิดโรงพยาบาลแห่งแรก ของ จ.สมุทรสาคร หรือ "ศูนย์ห่วงใยคนสาคร1" ที่สนามกีฬาจังหวัด ซึ่งเริ่มรองรับผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 700 เตียง มาตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของการแพร่ระบาด COVID-19 ในจังหวัด ซึ่ง รพ.สนาม นับเป็นจุดเริ่มต้นของ การหาสถานที่กักตัว ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงและไม่แสดงอาการ เพื่อนำตัวแยกออกจากชุมชนแยกออกจากสังคมมากักตัว เพื่อสังเกตอาการเพื่อจะได้ไม่เกิดความเสี่ยงแพร่เชื้อกับผู้อื่นต่อในช่วงที่ จ.สมุทรสาคร ยังต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดของสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงนั้น
โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่หาสถานที่อื่น ๆ เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมในจังหวัด จนนำมาสู่การมีโรงพยาบาลสนาม จำนวน 8 แห่ง ในช่วงเวลา 1 เดือน ของการแพร่ระบาดและเพิ่มเป็น 10 แห่ง ในช่วง 2 เดือน ของการแพร่ระบาด
สำหรับผู้ป่วย COVID-19 กลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่ คือ กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ติดเชื้อ COVID-19 จากตลาดกลางกุ้ง จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดใน จ.สมุทรสาคร จากนั้น เป็นกลุ่มแรงงานจากโรงงานอื่น ๆ และ สถานที่อื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่มากนัก หรือไม่แสดงอาการถูกทยอยส่งมาที่นี่รวมถึงกระจายไปยัง รพ.สนามแห่งอื่น ๆ ที่อยู่ใน จ.สมุทรสาคร
สำหรับการปิดโรงพยาบาลสนาม ครั้งนี้ นอกจากจังหวัดต้องการทำให้เห็นว่า ทิศทางการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ดีขึ้นแล้ว แต่สำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อขณะนี้หากตรวจพบจากากรคัดกรองเชิงรุกจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสนามแห่งอื่น และอยู่ในรูปแบบ ที่เจ้าหน้าที่สามารถดูแลในระบบ "Local Quarantine" ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากโรงพยาบาลสนามเพราะมีอาคาร มีสถานที่สำหรับกักตัวที่ชัดเจนมีห้องพักอยู่ได้เป็นสัดส่วนห้องละ 1 คน หรือ 2 คน เพราะจำนวนไม่มากแล้ว แตกต่างจากช่วงสถานการณ์รุนแรงเมื่อช่วง 1 เดือนก่อนหน้านี้ที่พบผู้ติดเชื้อ 500 ขึ้นไป และอาจสูงถึง 900 คน ในบางวัน
นอกจากการปิดโรงพยาบาลสนามที่นี่แล้ว วันนี้ จ.สมุทรสาคร ยังปิดอีกแห่งคือ "ศูนย์ห่วงใยคนสาคร3" ที่ วัฒนา แฟคตอรี่ ของนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ที่ยกอาคารโกดังขนาดใหญ่ 2 อาคาร อาคารละ 120 เตียง รวม 2 อาคารมี 240 เตียง ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวัฒนาได้ยกอาคารโกดังให้เจ้าหน้าที่ให้ทำเป็นโรงพยาบาลสนามในทันที เมื่อทราบว่าจังหวัดกำลังหาสถานที่ที่ต้องการสร้างโรงพยาบาลสนาม เพิ่มเติมเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.64 และต่อมายังก่อสร้างโรงพยาบาบสนามเพิ่มเติม (ศูนย์ห่วงใยคนสาคร8) เพื่อรองรับอีก 1,000 เตียง (ส่วนของ 1,000 เตียง จะยังไม่ปิด)
สำหรับโรงพยาบาลสนาม แห่งอื่น ๆ จากนี้จะทยอยปิดตามมาด้วย แต่จะยังคงเปิดบางแห่งไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อและสถานการณ์ COVID-19 จ.สมุทรสาคร ยังไม่นิ่ง