วันนี้ (7 มี.ค.2564) น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ กรณีการจัดการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ทำกิจกรรม "นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน" มีการล้อมผ้าแดงรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีการรื้อกระถางต้นไม้
น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ชุมนุมถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว 5-6 คน ซึ่งตนเองเป็นคนสุดท้ายที่เข้ารับทราบข้อกล่าว เนื่องจากเพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับมีภารกิจส่วนตัว จึงเลื่อนนัดมาในวันนี้ ส่วนความผิดคาดว่าเป็นข้อหาเดียวกับผู้อื่นที่มารับทราบไปก่อนหน้านี้ คือ ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีรวมตัวกันจำนวนมากอันเสี่ยงต่อการแกร่ระบาดของโรคโควิด-19, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ, และ พ.ร.บ.ความสะอาด รวมถึงอาจต้องชดใช้ค่าเสียหายเหตุรื้อถอนกระถางต้นไม้ มากกว่า 5 ล้านบาท
น.ส.ปนัสยา ตั้งข้อสังเกตว่าราคาความเสียหายนั้นมากเกินไป โดยเปรียบเทียบกับกรณีที่ถูกเรียกค่าเสียหายจากการรื้อกระถางต้นไม้รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในการชุมนุมก่อนหน้านี้ ถูกเรียกมูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 บาท เท่านั้น
นอกจากนี้ น.ส.ปนัสยา ระบุถึง การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเย็นวันนี้ด้วยว่าจะไม่เข้าร่วมการชุมนุม เนื่องจาก ในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) มีนัดฟังคำสั่งฟ้องคดีการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563 ซึ่งอาจจะไม่ได้รับการประกันตัว จึงต้องการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว