ส่งคลิปให้กำลังใจ "เด็กไทย" อยากเป็นทหารสหรัฐฯ

สังคม
8 มี.ค. 64
11:01
338
Logo Thai PBS
ส่งคลิปให้กำลังใจ "เด็กไทย" อยากเป็นทหารสหรัฐฯ
นายทหารสหรัฐฯ เชื้อสายไทย ส่งคลิปเป็นกำลังใจให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งตอบคำถามในคาบแนะแนวว่าโตขึ้นอยากเป็นทหารสหรัฐฯ แต่ครูให้แก้และตอบอาชีพในอนาคตที่เป็นไปได้ ทำให้ผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดียแสดงความคิดเห็นว่าไม่ควรไปตีกรอบ หรือทำลายความฝันของเด็ก

วันนี้ (8 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ต่อๆ กัน เป็นภาพที่เป็นกระดาษคำตอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง คาดว่าเป็นการตอบคำถามในคาบแนะแนวที่ถามว่า "โตขึ้นอยากทำอาชีพอะไร" นักเรียนตอบว่า ทหารอเมริกา หรือ US Army แต่ครูกลับเขียนด้วยปากกาสีแดงกลับมาว่า ให้แก้ และตอบอาชีพในอนาคตที่เป็นไปได้ ทำให้ผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย แสดงความคิดเห็นว่าไม่ควรไปตีกรอบ หรือทำลายความฝันของเด็ก

 

 

ล่าสุด มียูทูบเบอร์ ใช้ชื่อช่องว่า "จ่าโออเมริกา AROUND THE WORLD" คนนี้เป็นนายทหารสหรัฐฯ ที่มีเชื้อสายไทย ได้เผยแพร่คลิป รวบรวมนายทหารสหรัฐฯเชื้อสายไทย มาหมด ทั้งทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ ตั้งแต่นายสิบ จ่า นายร้อย จนถึงนายพัน มาพูดให้กำลังใจ ว่าคนไทยสามารถทำได้ ขอให้ไม่หยุดฝัน และพัฒนาตัวเอง ลองฟังบางช่วงบางตอน

 

 

นอกจากนี้ ยังมีหลายเพจและหลายคนโพสต์ให้กำลังใจ เช่น เพจที่ชื่อว่า "พี่นัท US.army & FAMILY's" ของ "จ่าณัฐพล เฉลยเพียร" ตำแหน่ง US Army Recruiter ซึ่งเป็นคนสรรหาจัดจ้างทหาร ซึ่งรับราชการเป็นทหารบกสหรัฐฯ มากว่า 16 ปี ประจำอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เขียนคุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครเป็นทหารสหรัฐฯ ไว้ตั้งแต่ก่อนเป็นกระแส โดยโพสต์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2564

 

 

คุณสมบัติ คือต้องถือกรีนการ์ด หรือเป็นพลเมืองสหรัฐฯ, อายุระหว่าง 17-35 ปี, เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป ไม่ว่าจะเรียนจบจากไทยหรือสหรัฐฯ ก็สามารถสมัครได้, ไม่มีโรคประจำตัว, ทำสอบ pre-test วัดความรู้ และสอบจริงหลังสอบผ่าน ทำเอกสาร เลือกสายงานงาน, ตรวจสุขภาพ และเซ็นสัญญาเป็นทหาร ระยะสัญญามีตั้งแต่ 2-8 ปีขึ้นไป

 

 

ขณะที่ผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2563 จัดทำโดยกลุ่มบริษัท อเด็คโก้ ประเทศไทย เผยแพร่เมื่อวันเด็กที่ผ่านมา สำรวจเด็กไทยอายุระหว่าง 7-14 ปี จำนวน 4,050 คน จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พบว่าอาชีพในฝันของเด็กไทย ปี 2563 นี้ ได้แก่อันดับ 1 แพทย์ อันดับ 2 ครู อันดับ 3 ยูทูบเบอร์ อันดับ 4 นักกีฬา อันดับ 5 ทหาร

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง