แม้ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี 2563 แต่การฝึกและเตรียมกำลังทางทหารยังคงมีความเข้มข้น โดยกองทัพบกได้ปรับรูปแบบการฝึกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหน่วยทหาร
พร้อมทั้งจัดให้มีการฝึกและประเมินผลการฝึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งหน่วยทหารราบ ม้าและปืนใหญ่ โดยใช้หลักการฝึกอย่างที่จะรบเมื่อรบต้องชนะ
วันที่ 12-14 มี.ค.2564 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 15 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ได้รับการคัดเลือกจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 เข้ารับการตรวจสอบและประเมินผลการฝึก เป็นหน่วยกองพันทหารปืนใหญ่สนาม ประจำปี 2564 ตามมาตรฐานที่เข้มข้นของกองทัพบก
ที่จัดตั้งคณะกรรมการจากศูนย์การทหารปืนใหญ่ มี พ.อ.ไพศาล ทานธรรม เป็นหัวหน้ากรรมการ รับผิดชอบตรวจสอบ และประเมินผลการฝึก เป็นหน่วยกองพันทหารปืนใหญ่สนาม ทั่วทั้งกองทัพบก
การฝึกเป็นปัจจัยที่สำคัญ ในการพัฒนาศักยภาพของกำลังพล และเป็นการตรวจสอบความพร้อมของอาวุธยุทโธปกรณ์ อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย เพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานในทุกภารกิจของกองทัพบก
โดยการฝึกและประเมินผลในครั้งนี้ ได้สมมติสถานการณ์ทางยุทธวิธี และการจำลองเหตุการณ์ เพื่อใช้สำหรับการฝึก ซึ่งจะมีการปฏิบัติทั้งในการเคลื่อนย้ายกำลัง การปฏิบัติในที่ตั้งยิง
การปฏิบัติของชุดปฏิบัติการพิเศษ และปัญหาตามสถานการณ์ต่างๆที่สอดแทรกในระหว่างการดำเนินภารกิจ รวมไปถึงการแสวงข้อตกลงใจของฝ่ายอำนวยการ
ทั้งนี้เพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานในแต่ละฝ่ายอำนวยการมีความรู้ความเข้าใจในการออกแผนปฏิบัติงานในแต่ละสายงาน โดยส่งต่อคำสั่งที่ผ่านข้อตกลงใจของผู้บังคับกองพันให้กับหน่วยรอง ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติให้ได้ผลสำเร็จตามความมุ่งหมายที่วางไว้
สำหรับกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ยังคงเน้นการฝึกตามแนวคิด วิธีการ และหลักนิยม ตามมาตรฐานการฝึกของเหล่าทหารปืนใหญ่ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 กองทัพบกอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนมีการพัฒนาระบบการฝึกโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการติดตามสถานการณ์ การสั่งการและประชุมทางไกลผ่านจอภาพ
ทั้งนี้เพื่อลดเวลาทางธุรการ และลดความเสี่ยงของการเคลื่อนย้ายซึ่งอาจจะถูกตรวจจับจากข้าศึกในสถานการณ์การรบจริง อีกทั้งยังทำให้ทุกส่วนสามารถวางแผนดำเนินภารกิจคู่ขนานไปพร้อมกันได้อีกด้วย
ทั้งนี้กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ได้พัฒนาระบบการฝึกของหน่วยขึ้นตรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กำลังพลได้มีความรู้ ความชำนาญในวิชาทหารปืนใหญ่ ดั่งสมญานามที่ว่า ราชาแห่งสนามรบ สามารถตอบสนองการยิงสนับสนุนให้กับหน่วยดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างต่อเนื่อง แม่นยำ ทันเวลา ภายใต้แนวคิด
ยามศึกเรารบยามสงบเราฝึกและพัฒนา ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาส