เท้าแชร์บ้านมิ้น หลอกระดมทุนเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

อาชญากรรม
17 มี.ค. 64
14:56
4,257
Logo Thai PBS
เท้าแชร์บ้านมิ้น หลอกระดมทุนเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์บ้านมิ้น ร้องตำรวจ สน.ดอนเมือง ให้ติดตามเท้าแชร์ หลังหลอกระดมเงินให้ดอกเบี้ยสูง ล่าสุดปิดบ้านหนี เสียหายกว่า 20 ล้านบาท

วันนี้ (17 มี.ค.2564) ที่ สน.ดอนเมือง กลุ่มตัวแทนผู้เสียหาย จากการเล่นแชร์ รวมตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ดอนเมือง หลังจากได้ไปแจ้งความไว้ที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) แต่ทาง ปอศ.ได้สรุปการสอบปากคำตัวแทนผู้เสียหาย เพื่อส่งมายังท้องที่สน.ดอนเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่เกิดเหตุและเท้าแชร์อาศัยอยู่

 


หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับเท้าแชร์เป็นอย่างดี และอยู่ในชุมชนเดียวกัน โดย น.ส.พรรณพร หรือมิ้น เท้าแชร์ ได้ชักชวนให้มาออมทองก่อนและเล่นแชร์ได้ดอกเบี้ยสูง สุดท้ายชวนให้ซื้อแชร์ที่ลูกแชร์ขาดส่ง

โดยแต่ละคนเล่นแชร์บ้านมิ้นแห่งนี้มาประมาณ 2-4 ปี พอได้ดอกเบี้ยดี และจ่ายจริง จึงมีการบอกต่อๆกัน จนมีลูกแชร์เพิ่มขึ้นทั้งใน กทม. ปทุมธานี นนทบุรี รวมกว่า 100 คน

เท้าแชร์มีวงแชร์ให้เลือกเล่นลงทุนหลายแบบ เช่น จ่ายเงิน 5,000 บาท จะได้คืน 8,000 บาท หรือเล่น 10,000 บาท จะได้รับ 18,000 บาท รอผลกำไร 1 เดือนครึ่ง หรือภายใน 7 วัน

จากนั้นก่อนที่เท้าแชร์จะหนีไป มีการประกาศในกลุ่มวงแชร์ว่าจะให้ดอกเบี้ยสูง เช่น ลงเงิน 10,000 บาท จะได้รับ 19,500 บาท รวมถึงประกาศขายมือแชร์ที่ผิดนัดส่งงวดไม่ตรงจำนวนหลายมือ

 

ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเท้าแชร์บ้านมิ้นจะหนีไป ได้โทรศัพท์มาหาผู้เสียหายคนหนึ่ง ให้มาหาที่บ้านแล้วร้องไห้ อ้างว่าตนถูกลูกแชร์ 3 คน โกงเงินไป 2 ล้านบาท เท้าแชร์อ้างว่า จะขายทรัพย์สินมาชดใช้หนี้ให้กับลูกแชร์ จากนั้นตอนกลางคืนวันเดียวกัน เท้าแชร์ได้หนีไปพร้อมกับสามี โดยทิ้งลูกไว้ให้ยายเลี้ยง ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้

ผู้เสียหายสืบค้นประวัติของเท้าแชร์รายนี้พบว่า มักนำเงินไปซื้อทอง ซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หลายคัน และทำศัลยกรรมใบหน้า ล่าสุดซื้อบ้านใหม่แต่ยังไม่พบการเข้าไปอยู่อาศัย

ตำรวจ สน.ดอนเมือง กล่าวว่า จะต้องรอเอกสารจาก ทาง บก.ปอศ.มาถึงก่อน และขอดูข้อมูลในการสอบสวนมาแล้วเบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด ขณะเดียวกันฝากเตือนประชาชน เรื่องการลงทุนเล่นแชร์ ที่ได้ผลกำไรเกินควร อาจถูกหลอก อย่างไรก็ตามจะเร่งรัดดำเนินการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง