"เหมือนฉุดผมกลับมาจากความตาย" ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เปิดใจ 82 วันใน รพ.

สังคม
19 มี.ค. 64
09:50
6,126
Logo Thai PBS
"เหมือนฉุดผมกลับมาจากความตาย" ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เปิดใจ 82 วันใน รพ.
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เปิดใจครั้งแรกกับ 82 วัน ในการต่อสู้กับ COVID-19 ที่โรงพยาบาลศิริราช ยอมรับไม่รู้สึกตัวนาน 42 วัน ใครจะคิดว่าจะกลับมาพูดคุยกับทุกคนได้ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ เตรียมกลับไปพักฟื้นที่ จ.สมุทรสาคร

วันนี้ (19 มี.ค.2564) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ออกจากโรงพยาบาลศิริราช หลังถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโรค COVID-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2563 จนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวขอบคุณทีมแพทย์ที่ดูแล และขอบคุณทุกคนสำหรับกำลังใจ พร้อมระบุว่า แม้จะเห็นว่าตอนเดินเข้ามาอาจยังไม่แข็งแรงมาก แต่วันก่อนรู้สึกแย่กว่านี้ ซึ่งการมาร่วมแถลงข่าวในวันนี้ ถือว่าอาการดีกว่าก่อนหน้านี้อย่างมาก

อยู่โรงพยาบาลศิริราช 82 วัน โดยไม่รู้สึกตัวเลย 42 วัน แล้วกลับมาพูดคุยกับทุกคนได้ ยังรู้สึกแปลกใจที่เดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ขอบคุณคณะแพทย์และบุคลากร เหมือนฉุดผมกลับมาจากความตาย


นายวีระศักดิ์ ระบุว่า ในช่วงที่พบว่าต้องทำงานเกี่ยวกับ COVID-19 นั้น รุนแรงกว่าที่คิด เคยปรารภว่าทำงานมาก ไปหลายที่ หากไปตรวจคงพบเชื้อแน่ หากพบคงไม่เป็นอะไรมาก 10 วันคงจะหาย และในช่วงนั้นใกล้จะเปิดโรงพยาบาลสนามหลายแห่ง จึงจะสร้างที่หน้าจวนผู้ว่าฯ เพราะคิดว่าคนที่จะป่วยก็คือ ผู้ว่าฯ

ตอนนั้นขอโรงพยาบาลสมุทรสาคร ตรวจก่อนตั้งโรงพยาบาลสนาม เมื่อตรวจก็พบว่าติดเชื้อจริง คิดว่า 10 วันน่าจะหาย แต่อาการรุนแรงกว่าที่คิดไว้ อยากบอกทุกคนว่าความรุนแรงของ COVID-19 ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ขอบคุณคณะแพทย์ พยาบาล สื่อมวลชนและคนไทย ที่ช่วยเหลืออนุเคราะห์หลายอย่าง ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งของชีวิตและจะนำไปเป็นบทเรียน มีแพทย์หลายท่านพูดว่า นพ.ประสิทธิ์ บอกว่าเคสผู้ว่าฯ ถือเป็นเดิมพันว่าแพทย์ศิริราชจะสู้กับ COVID-19 ได้หรือไม่ ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ในอนาคต

"ครอบครัว" กำลังใจสำคัญ

ลูกสาวของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เปิดเผยว่า COVID-19 กระทบคววามรู้สึกของครอบครัวค่อนข้างหนัก เพราะติดเชื้อทั้งพ่อและแม่ สิ่งแรกที่ห่วงมากในช่วงแรกคือกำลังใจของพ่อและแม่ ซึ่งขณะนั้นครอบครัวได้รับทราบว่าพ่อติดเชื้อจากข่าว ขณะที่ช่วงแรกมีอุปสรรคในการรักษา เช่น การรับรู้ ซึ่งครอบครัวก็พยายามส่งกำลังใจให้

ส่วนตนเองมาที่ รพ.ศิริราช ทุกวันเพื่อคุยกับแพทย์ โดยได้เขียนโน้ตไว้ทุกวัน จนกลางเดือน ม.ค.ที่พ่อเริ่มรับรู้ พยาบาลจึงได้อ่านโน้ตให้พ่อฟัง นอกจากนี้ยังได้อัดเสียงให้ฟังและฟังเสียงของแม่ เพื่อหวังให้พ่อสามารถเรียกสติคืนมา จากนั้นในช่วงหลังก็สามารถเริ่มเข้าเยี่ยมได้

ขณะที่นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี ภรรยาของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เมื่อเสาหลักของครอบครัวประสบปัญหา COVID-19 จึงค่อนข้างกังวล แต่เมื่อมีปัญหา สิ่งที่จะเป็นส่วนสำคัญคือ กำลังใจจากครอบครัว พร้อมขอบคุณคณะแพทย์ รพ.สมุทรสาคร และ รพ.ศิริราช ที่ดูแลและรักษาเป็นอย่างดี และขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งมาให้ครอบครัว ซึ่งได้นำกำลังใจนั้นส่งไปให้ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร

จากนั้นผู้ว่าฯ สมุทรสาคร กล่าวว่า "กำลังใจ" เป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้ แต่ต้องการมาก วันที่ได้ยินเสียงภรรยาและลูกสาว ได้ยินข้อความที่พยาบาลอ่านให้ฟัง ก็ฮึกเหิมและมีแรง "นี่คือสิ่งที่เรียกว่ากำลังใจ แม้เป็นนามธรรม แต่มีคุณค่ามหาศาล"

ผู้ว่าฯ กลับสมุทรสาครพักฟื้น

ด้าน ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ระบุว่า ก่อนที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร จะเข้ารักษาตัว มีการประสานงานที่ดีระหว่างโรงพยาบาลสมุทรสาคร และโรงพยาบาลศิริราช ที่สังเกตอาการและส่งตัวมาเร็ว เริ่มให้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็ว รวมถึงประสานการรักษา ทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำ

ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร มีสถิติการใช้เครื่องช่วยหายใจนานที่สุด 42 วัน แต่ท่านมีกำลังใจดี ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก และในวันที่เสียงภรรยาของท่านกระทบหู เชื่อว่าเป็นวันที่ท่านตัดสินใจว่าจะกลับ จ.สมุทรสาคร ให้ได้

วันที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร รู้ตัว ก็ได้สอบถามถึงสถานการณ์ COVID-19 ของ จ.สมุทรสาคร ทันที ซึ่งหลังจากนี้ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร จะกลับไปพักฟื้นที่บ้าน และขอความร่วมมือให้งดเยี่ยม จนกว่าคณะกรรมการแพทย์จะอนุญาต

34 วันในห้องไอซียู 42 วันใส่เครื่องช่วยหายใจ

ขณะที่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร มีอาการแทรกซ้อน แม้ว่าจะรักษาอาการ COVID-19 โดยมีการใช้เครื่องช่วยหายใจและเจาะคอ เพื่อให้การรักษาง่ายขึ้น

จากนั้นตรวจพบอาการปอดอักเสบดีขึ้น ซึ่งมาจากภูมิคุ้มกันที่ค่อย ๆ ได้ผล โดยอยู่ในห้องไอซียู 34 วันและพยายามฟื้นฟูให้หายใจด้วยตนเอง ช่วงแรกเป็นห่วงเรื่องสมอง แต่ผู้ว่าฯ สมุทรสาครฟื้นตัวเร็ว ทั้งการหายใจด้วยตนเอง รับประทานอาหาร อาการทางสมองฟื้นกลับมาได้ดี สามารถพูดคุยได้

กรณีศึกษาของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร คือ มีต้นทุนด้านสุขภาพดี ใส่เครื่องช่วยหายใจ 42 วัน ระดมกำลังทรัพยากรด้านต่าง ๆ มาช่วย รวมถึงการสนับสนุนจากครอบครัวที่ช่วยทำให้ฟื้นตัวได้ดี จึงขอยกย่องเรื่องความมุ่งมั่นที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ต้องการฟื้นกลับมาในทุกด้าน

"ศิริราช" พร้อมรับมือระบาดระลอก 2

นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ระบุว่า โรงพยาบาลศิริราช มีความพร้อมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการรับมือการระบาดของ COVID-19 ระลอก 2 โดยรับทั้งผู้ป่วยอาการเบาและวิกฤต เน้นการช่วยโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลสมุทรสาคร จึงรับผู้ป่วยอาการหนักและปานกลางมากขึ้น

รอบนี้ดูแลผู้ป่วยอาการหนักมากกว่ารอบที่ 1 ใช้ห้องความดันลบทั้ง 7 ห้อง และเพิ่มห้องความดันลบด้วย มีเตียงห้องแยกโรค 11 ห้อง และศูนย์การแพทย์ฯ อีก 51 เตียง มีศักยภาพดูแลได้ 69 คน และอาจขยายได้อีก 6 คน หากอาการหนัก

นพ.วิศิษฎ์ ย้ำว่า การดูแลใช้แแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เดิมปิดบัญชีไปแล้วจากการระบาดในระลอกแรก แต่เมื่อระลอกใหม่มา และที่บางแค มีผู้ป่วยทั้งหมด 6 คน ตอนนี้ยังไม่พ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาด และได้ยกระดับการดูแล COVID-19 เท่ากับการระบาดระลอกใหม่

ช่วงสงกรานต์มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดขอให้สวมหน้ากากในการป้องกันด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง