สธ.เผยผลสอบเบื้องต้น "ชายเสียชีวิต" ไม่เกี่ยววัคซีน COVID-19

สังคม
26 มี.ค. 64
12:02
3,409
Logo Thai PBS
สธ.เผยผลสอบเบื้องต้น "ชายเสียชีวิต" ไม่เกี่ยววัคซีน COVID-19
กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสอบสวนเบื้องต้นชายเสียชีวิต พบมีโรคประจำตัวหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง มั่นใจสาเหตุจากเส้นเลือดในช่องท้องแตก ไม่เกี่ยวข้องวัคซีน COVID-19

วันนี้ (26 มี.ค.2564) เวลา 11.00 น. กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวผลการฉีดวัคซีน COVID-19 โดยโดย นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 และ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ

นพ.โสภณ กล่าวถึงประเด็นที่มีการนำเสนอข้อมูลพบผู้เสียชีวิตคนแรก หลังฉีดวัคซีน COVID-19 ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้วยโรคเส้นเลือดในช่องท้องโป่งพองและแตก ซึ่งไทยมีระบบติดตามผู้ที่ฉีดวัคซีนและตรวจพบเหตุการณ์นี้ได้ เมื่อมีการเสียชีวิตจะต้องสอบสวนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งตนเองมั่นใจว่า สาเหตุมาจากเส้นเลือดในช่องท้องแตก ไม่ใช่วัคซีน COVID-19

มั่นใจว่า เป็นเหตุบังเอิญ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน เมื่อระบบติดตามหลังฉีดวัคซีนตรวจพบความผิดปกติก็จะแจ้งเตือน ก่อนตรวจสอบ

 

นพ.โสภณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเร็ว ๆ นี้ จะเพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีนที่อนามัย รพ.สต. โมบายด์คลินิก อาจนำร่องในพื้นที่สมุทรสาคร เช่นเดียวกับพื้นที่ตลาดบางแค กรุงเทพฯ

ขณะที่ นพ.ทวี กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนเบื้องต้นได้ส่งข้อมูล พบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยชายที่มีโรคประจำตัว คือ หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เข้ารับการผ่าตัดเมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล 40 วัน ก่อนกลับไปพักฟื้นที่บ้าน 3 สัปดาห์ จากนั้นไปฉีดวัคซีนเมื่อ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ป่วยรายงานว่าในช่วงวันที่ 1 และ 3 อาการปกติ จากนั้นวันที่ 7 ผู้ติดตามไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันที่ 8 และ 9 หลังฉีดวัคซีนผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ และเป็นลม จึงแอดมิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ภายหลังแอดมิดผู้ป่วยอาการทรุดลงและเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค.2564 แพทย์สรุปว่า ผู้ป่วยรายนี้น่าจะเสียชีวิตจากหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง และมีอาการแตก หรือรั่ว โรคนี้เหมือนระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ในร่างกาย แต่ผู้ป่วยคนดังกล่าวบังเอิญไปฉีดวัคซีน COVID-19 เมื่อ 10 วันก่อนหน้านี้ จึงสรุปว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน

ทางการแพทย์และคณะผู้เชี่ยวชาญ สรุปว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน

 

สำหรับโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เป็นเส้นเลือดที่ออกมาจากหัวใจ เป็นท่อหลักที่มีเส้นใหญ่มาก และแตกแขนงไปเลี้ยงสมอง แขน ขา ซึ่งเส้นเลือดมีลักษณะพาดไปที่ช่องอก ช่องท้อง และแตกแขนงอยู่ที่ขาทั้งสองข้าง

หลอดเลือดที่โป่งพองเป็นความผิดปกติ เกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุมาก เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ โรคความดันสูง ไขมันในเลือดสูง ผู้ที่สูบบุหรี่ และส่วนน้อยมาจากความพิการตั้งแต่กำเนิด ซึ่งโรคนี้เปรียบเหมือนระเบิดเวลาที่ซ่อนในร่างกาย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ และหลายรายตรวจพบโดยบังเอิญ เช่น เอ็กซเรย์ ซีทีสแกนหลังเจ็บหน้าอก เจ็บหลัง ปวดท้องเฉียบพลัน

ส่วนการรักษาหากเป็นก้อนเล็ก ๆ ให้เฝ้าระวังและลดความเสี่ยงต่าง ๆ ส่วนก้อนใหญ่อาจใส่หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดเทียม หากแตกแล้วต้องผ่าตัดทันที และมีความเสี่ยงเสียชีวิต

นพ.ทวี ยังกล่าวถึงผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน แบบไม่รุนแรง โดยยกตัวอย่างตนเองมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดประมาณครึ่งวัน แต่ยังสามารถทำงานได้ ส่วนผลข้างเคียงหากเกี่ยวข้องกับทางสมอง ชัก ถือว่าผลข้างเคียงรุนแรง และต้องมีการพิสูจน์ โดยเป็นระบบสากลที่ต้องมีการรายงานและติดตาม

ยกตัวอย่างวัคซีน Sinovac พบผลข้างเคียงชนิดไม่รุนแรง 20-30% ส่วนผลข้างเคียงรุนแรง 0.7% ยืนยันว่าวัคซีนที่ไทยใช้ทั้ง 2 ตัวมีความปลอดภัย ส่วนอาการแพ้ชนิดไม่รุนแรง เช่น ผืน คัน และอาการแพ้รุนแรง มีอาการทันที เช่น แน่นหน้าอก เหนื่อย ปวดท้อง อาเจียน พบได้น้อย อย่างไฟเซอร์พบ 11 : 1 ล้านโดส ส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายใน 15 นาทีหลังฉีดวัคซีน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง