การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ ร่วง หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ -ยุโรปชะลอ

ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ วิตกวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังไม่มีมาตรการแก้ไขชัดเจน กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งไม่ให้อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกสเติบโตได้

นายศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลง ราคาวัตถุดิบที่ถีบตัวสูงขึ้น และการแข่งขันของธุรกิจที่ทวีความรุนแรง ภายในสิ้นปีนี้อุตสาหกรรมกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะชะลอตัวลงร้อยละ 5 ซึ่งสัญญาณจะเริ่มชัดเจนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ และความซบเซาของตลาดจะยาวนานอย่างน้อย 1-2 ปี ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 15 เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งยังมีกำลังซื้อสูง แต่ยอมรับว่าไม่สามารถทดแทนการบริโภคของตลาดสหรัฐฯ และยุโรปที่หายไปได้ทั้งหมด พร้อมระบุ ส่วนนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท สร้างแรงกดดันให้อุตสาหกรรมนี้มากขึ้น และรัฐบาลยังไม่มีมาตรการรับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจน

ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมของมูลค่าการส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2554 นี้ จะมีมูลค่าประมาณ 33,775-34,750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 2.5-.5.5 เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 21.9 ในปี 2553 เพราะแม้ว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในญี่ปุ่น แต่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าที่สำคัญๆ ของไทย โดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐฯ ยังอ่อนแอ