วันนี้ (5 เม.ย.2564) นายคำสะไหว พมมะจัน ผู้แทนบริษัท ค้าไม้ สัญชาติลาว เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับที่ปรึกษาอธิบดีกรมศุลกากร กรณีไม่ส่งคืนไม้พะยูงให้เจ้าของภายหลังที่ศาลมีคำตัดสินทางคดีไปแล้วว่า เป็นการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศถูกต้องตามกฎหมายที่มีเอกสารถูกต้องทุกประการ
นายคำสะไหว เปิดเผยว่า เหตุเกิดปี 2549 ไม้พะยูงทั้งหมดจำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นไม้ที่บริษัทได้สัมปทานตัดมาจากหน้าเขื่อนใน สปป.ลาว และจัดส่งจำหน่ายให้ลูกค้าในจีนโดยจะต้องขนผ่านทางประเทศไทย เมื่อเข้ามาถึงจุดขนย้ายลงเรือ ถูกเจ้าหน้าที่ไทยอายัดไม้โดยอ้างว่าเอกสารขนย้ายไม้เป็นเอกสารมิชอบโดยกฎหมายซึ่งได้ฟ้องร้องต่อสู้จนชนะคดีเพราะเอกสารถูกต้อง ศาลสั่งให้กรมศุลกากรผู้ทำหน้าที่เก็บรักษาของกลางคืนไม้ให้เจ้าของแต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการส่งคืนทำให้เสียโอกาสทางการค้าธุรกิจเสียหาย ในอดีตไม้ล็อตนี้มีมูลค่าถึง 600 ล้านบาท ปัจจุบันเสื่อมราคาเหลือประมาณ 100 กว่าล้านบาท
นอกจากการร้องทุกข์แจ้งความ กับ ปปป.ผู้เสียหายประสานขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน ซึ่งในสัปดาห์หน้า รองอธิบดีกรมป่าไม้จะนำพาตรวจสอบไม้พะยูงที่คลังสินค้าลาดกระบังที่อยู่ในความดูแลของกรมศุลกากร มานานกว่า 14 ปี แล้ว ที่ผ่านมาเคยขอร้องอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อเข้าตรวจสอบไม้แต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งหากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนพบว่า คำสั่งไม่ให้เข้าตรวจสอบดังกล่าวอธิบดีกรมศุลกากรมีส่วนรู้เห็นตนเองก็จะเอาผิดไปถึงอธิบดีกรมศุลกากรด้วยเช่นกัน
คดีนี้ เมื่อวันนี้ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา นายคำสะไหว ถูกข้าราชการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.มุกดาหาร เรียกรับเงิน 2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือนำไม้คืนด้วย ซึ่งข้าราชการนายดังกล่าว ถูกตำรวจสืบสวนสกัดจับได้ในทันที