วันนี้ (6 เม.ย.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระบุว่า ชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สามารถเดินทางระหว่าง 2 ประเทศได้ โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันที่ 19 เม.ย.นี้ หลังจากทั้ง 2 ประเทศ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ และมีอัตราการติดเชื้อแทบเป็นศูนย์ เนื่องจากมีการใช้มาตรการปิดเมืองอย่างเข้มข้นในพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาด
การประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไต้หวันเปิดการเดินทางในรูปแบบทราเวล บับเบิล กับปาเลา ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ท่ามกลางความยินดีของนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน
รักษาการหัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียยังไม่ได้รับวัคซีน COVID-19 ซึ่งแอสตราเซเนกา ระบุว่าจะจัดส่งให้จำนวนมากกว่า 3 ล้านโดส เนื่องจากสหภาพยุโรปจำกัดการส่งออก โดยความล่าช้าดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของออสเตรเลียในการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย ให้คำมั่นว่าจะฉีดวัคซีนอย่างน้อย 4 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่จากข้อมูลมีผู้รับวัคซีนไปเพียง 670,000 คนเท่านั้น
จีนพบชาวเมียนมาในเมืองชายแดนติด COVID-19 เพิ่ม
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน ระบุว่าวันนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่ 17 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในมณฑลยูนนาน และในจำนวนนี้เป็นชาวเมียนมา 9 คน นับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.เป็นต้นมา จีนพบผู้ติดเชื้อในมณฑลนี้แล้วอย่างน้อย 90 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองรุ่ยลี่ ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่อยู่ติดกับเมียนมา
จีนไม่ได้ระบุชัดเจนว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งล่าสุดเกิดจากผู้อพยพชาวเมียนมาหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศใช้มาตรการปิดเมือง และคุมเข้มการข้ามแดนผิดกฎหมาย รวมทั้งเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ โดยล่าสุด มีผู้รับวัคซีนในเมืองรุ่ยลี่ไปแล้วกว่า 3 แสนคน