ครอบครัวของนายนรการ ศรีแสง อาชีพรับเหมาก่อสร้างวัดแห่งหนึ่งในเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ต้องจำใจขนย้ายข้างของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องซักผ้า พัดลม ตู้เย็น กลับบ้านเกิด จ.นครพนม พร้อมกับภรรยาและลูกอีก 2 คน
สงกรานต์ปีนี้จึงไม่ใช่การกลับไปเยี่ยมครอบครัว เหมือนครอบครัวอื่นๆ ข้าวของที่บรรทุกมาเต็มท้ายรถกระบะต่างจากรถคันอื่นๆ ทำให้เห็นความต้องการของนรการอย่างชัดเจน ว่ากำลังย้ายกลับบ้านอย่างถาวร หรือจนกว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างจะเรียกกลับมาทำงานอีกครั้ง
เป้าหมายของผมเปลี่ยนไป ทุกปีกลับบ้านมีเพียงของฝาก เสื้อผ้า กระเป๋า แต่ปีนี้ผมต้องขนของกลับไปอยู่บ้านจนกว่าจะมีงานเข้ามา
ภรรยาของเขาบอกว่า ได้วางแผนกลับบ้านไปทำการเกษตรและเลี้ยงวัว รับจ้างทำมาหากินอยู่ที่บ้าน เพราะสามีทำอาชีพก่อสร้างมานานกว่า 22 ปีแล้ว แต่ไม่เคยประสบปัญหาแบบนี้มาก่อน หากมีโอกาสก็จะกลับมาทำงานที่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง
โควิด-19 ทำให้บางครอบครัวไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว เพราะกังวลจะแพร่เชื้อไปสู่ครอบครัว ทีมข่าวไทยพีบีเอสได้พูดคุยกับชาว จ.ยโสธร เธอบอกว่า ครบ 1 ปีเต็มที่ไม่ได้กลับบ้านไปหาลูกชาย การระบาดของเชื้อโรค ทำให้กังวลใจเหมือนกันว่าจะถูกกักตัว 14 วัน ตามมาตรการด้านสาธารณสุข แต่เมื่อไม่มีประกาศ ทำให้เธอตัดสินใจกลับบ้าน พร้อมของฝาก ระหว่างเดินทางลูกชายจะวิดีโอคอลมาถามตลอดว่าแม่กลับจริงหรือไม่
ลูกโทรมาตามตั้งแต่วันที่ 8 ว่าแม่จะกลับไหม อยากให้กลับมาก ถึงจะโทรหากันทุกวัน แต่ก็ไม่เหมือนได้กลับไปกอดเขา
ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนพหลโยธิน เส้นทางขาออกกรุงเทพมหานคร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องถนนมิตรภาพ จ.สระบุรี มุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณรถยนต์มาก โดยเฉพาะ ช่วงโรงปูนทีพีไอ อ.มวกเหล็ก เนื่องจากรถชะลอตัว เพราะเป็นทางขี้นเนินเขา
แต่อย่างไรก็ตาม ปีนี้ปริมาณรถยนต์น้อยลงกว่าทุกปี ทีมข่าวสังเกตตามจุดพักรถปั๊มใหญ่ๆ พบว่ารถไม่หนาแน่นเหมือนทุกปี ขณะเดียวกันบางจังหวัดมีมาตรการด้านสาธารณสุขต้องกักตัว 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนที่ทำงานในกรุงเทพฯ บางส่วน เลือกที่จะไม่เดินทางกลับช่วงสงกรานต์ในปีนี้ เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่สีแดงควบคุมการระบาด แม้รัฐบาลจะไม่ได้มีคำสั่งห้ามเดินทางข้ามจังหวัดก็ตาม
