แม่ไม่ได้หายไปไหนนะ...กักตัวอยู่

สังคม
12 เม.ย. 64
16:33
1,444
Logo Thai PBS
แม่ไม่ได้หายไปไหนนะ...กักตัวอยู่
ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ใช่เรื่องสนุก ตั้งแต่รู้ว่ากลายเป็นกลุ่มเสี่ยง จะเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย ก็สร้างความกังวลให้ผู้คนไม่น้อย โดยเฉพาะผู้เฝ้าระวังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ หรือแม้แต่จะเป็นกลุ่มเสี่ยง

แม่คนหนึ่งที่มีลูกเล็ก ชั้นอนุบาล และมีแม่วัย 70 กว่า อยู่ในบ้านเดียวกัน วันหนึ่งกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง จากเพื่อนร่วมงานที่ไปติดเชื้อมาจากที่อื่น

ผ่านการกักตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งเพียง 2 วัน เธอเขียนบันทึกเล่าให้ฟัง

แม่ไม่ได้หายไปไหนนะ...กักตัวอยู่

หลังจากเพื่อนติดโควิด-19 ทีมงานทั้งหมด ที่ทำงานร่วมกัน แยกย้ายกันกักตัวและตรวจหาเชื้อ

แม่เริ่มกักตัวตั้งแต่ค่ำ วันที่ 7 เมษายน หลังรู้ผลตรวจของ..... สิ่งแรกที่กังวลคือลูกกับยาย คุยกับสามี ว่าจะเอาไงดี จะกักตัวในบ้านหรือออกไปกักตัวข้างนอก ...คำตอบที่ได้คือ..ต้องออกไป...

การออกไปข้างนอก ย่อมนำมาสู่ค่าใช้จ่ายที่เกินควบคุม เพราะต้องไปอยู่โรงแรม จำได้ว่า ในขณะนั้นพยายามโทรหาผู้เกี่ยวข้อง ที่จะตัดสินใจได้ว่า

เราจะออกไปอยู่โรงแรมได้ไหม? หรือมีที่พักสำรองไหม? ถ้าเราอยู่บ้านไม่ได้ ...

คำตอบที่ได้ในวันนั้นคือ ..รอก่อน... ฝ่ายที่รับผิดชอบดำเนินการอยู่ แต่ยังไม่สำเร็จ...

ความทุกข์เกิดขึ้นทันที เพราะต้องเลือกอยู่บ้าน โดยแยกห้องกับทุกคน ความกังวลต่างๆ มากมายวิ่งเข้ามาไม่หยุด

 

วันที่ 8 เมษายน ช่วงบ่ายจึงไลน์ถาม ฝ่ายบุคคลถึงความคืบหน้าในการหาที่กักตัว ...

ฝ่ายบุคคลให้แจ้งความจำเป็นถึงเหตุผลที่อยู่บ้านไม่ได้อีกครั้ง แม้เราจะลงชื่อขอไว้กับฝ่ายธุรการในช่วงเที่ยง ..ตกเย็น ฝ่ายบุคคลแจ้งว่า ได้ที่กักตัวแล้วเป็นโรงแรมแถวรัชดา เริ่มเดินทางพรุ่งนี้

วันที่ 9 เมษายน เป็นวันที่ความกังวลเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 ลดลง เพราะได้ออกจากบ้านแล้ว

วันนี้ทีมงานได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล ซึ่งเดิมทีแม่ก็ต้องไปตรวจด้วย แต่เมื่อได้ที่กักตัวแบบ ASQ (สถานที่กักตัวทางเลือก) โรงแรม...ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจที่โรงพยาบาล เพราะให้ตรวจที่โรงแรมเลย

เมื่อเดินทางมาถึงโรงแรม เจ้าหน้าที่ชี้แจงขั้นตอนการกักตัว 14 วัน ว่าต้องทำอะไรบ้าง และบอกว่า จะได้ตรวจหาเชื้อโควิด -19 ในวันที่ 13 เมษายน

ซึ่งถือว่าช้ากว่าทีมงานและเพื่อนๆ ในหน่วยงานเดียวกัน ที่ได้ตรวจและผลออกมาเป็น..ลบ..กันหมดแล้ว

ถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องออกมากักตัวข้างนอก ให้เสียเงินเสียทอง ขอตอบในฐานะที่มีลูกเล็ก และมีแม่อายุ 70 กว่า อยู่ในบ้านเดียวกันว่า..จำเป็น...

ถ้าอยู่บ้านจะสั่งอาหารเดลิเวอร์รี ก็ออกมารับเองไม่ได้ กังวลเรื่องเชื้อโรค ซึ่งคนที่คอยรับส่งอาหารให้เรา คงหนีไม่พ้นยายและสามี
ลูกก็วิ่งมาหาหน้าห้อง ตะโกนคุยผ่านประตู ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยู่ในห้องคนเดียว และทำไมถึงเจอหน้ากันไม่ได้

เรื่องที่กักตัวต้องขอบคุณผู้บริหาร และฝ่ายบุคคลจริงๆ ที่เข้าใจเหตุผลและพยายามหาที่ให้ (มารู้ทีหลังว่าที่ช้า เพราะหาที่ไม่ได้)

ซึ่งจากที่อยู่ในตอนนี้ มีคนเข้ามากักตัวตลอดเวลา เข้ามาใหม่ทุกวัน คิดว่าอนาคตโรงแรมแบบ ASQ อาจไม่พอก็ได้

แม่อยู่ที่โรงแรมมา 4 วัน พรุ่งนี้จะได้ตรวจหาเชื่อโควิด-19 แล้ว สุขภาพจิตตอนนี้ดีมาก ไม่เครียดเหมือนช่วงวันแรก ๆ ปรับตัวได้ แต่ยังคิดถึงลูกตลอดเวลา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง