ไทยติดโควิด-19 สะสมแตะ 4 หมื่นวันแรก เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน

สังคม
17 เม.ย. 64
12:03
1,480
Logo Thai PBS
ไทยติดโควิด-19 สะสมแตะ 4 หมื่นวันแรก เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน
โฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์ COVID-19 ไทยป่วยเพิ่ม 1,547 คน รวมป่วยสะสม 40,585 คน แตะ 4 หมื่นวันแรก โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน หนึ่งในนั้นมีประวัติเชื่อมโยงคลัสเตอร์ทองหล่อด้วย ส่งผลให้ไทยรวมผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 99 คนแล้ว

วันนี้ (17 เม.ย.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์ COVID-19 โดยไทยป่วยเพิ่ม 1,547 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบริการณ 1,316 คน คัดกรองเชิงรุก 228 คน จากต่างประเทศ 3 คน รวมป่วยสะสม 40,585 คน แตะ 4 หมื่นวันแรก หายป่วยแล้ว 28,570 คน รักษาในโรงพยาบาล 11,916 คน เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน รวม 99 คน


สำหรับผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 38 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ มีโรคประจำตัวเป็นโรคอ้วน ป่วยที่ จ.ตาก มีประวัติเชื่อมโยงคลัสเตอร์ทองหล่อ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 3 เม.ย. ก่อนตรวจพบเชื้อ แล้วอาการทรุดหนัก และเสียชีวิตวันที่ 16 เม.ย.64

ผู้เสียชีวิตอีกคน เป็นชายไทย อายุ 51 ปี พนักงานบริษัท มีโรคประจำตัวเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง ป่วยที่ จ.ปทุมธานี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า โดยเริ่มป่วยวันที่ 10 เม.ย. มีไข้ ไอ เจ็บคอ เสมหะปนเลือด ก่อนตรวจพบเชื้อวันที่ 12 เม.ย. ต่อมาวันที่ 14 เม.ย.มีภาวะหายใจล้มเหลว ใส่ท่อช่วยหายใจแต่อาการแย่ลง และเสียชีวิตในวันที่ 15 เม.ย.64

อัตราเสียชีวิตน้อย รักษาหายเกือบ 100%

จากข้อมูลพบว่า ระลอกแรก ม.ค. 63 มีการป่วย 4,237 คน เสียชีวิต 60 คน คิดเป็น 1.42% รักษาหาย 98.58% ส่วนระลอก ธ.ค. 63 ป่วย 24,626 คน เสียชีวืต 34 คน คิดเป็น 0.14% รักษาหาย 99.86% และระลอก เม.ย.64 ป่วย 5,712 คน เสียชีวิต 3 คน คิดเป็น 0.05% รักษาหายและรักษาอยู่ 99.95% ข้อมูลวันที่ 13 เม.ย.


นักวิชาการระบุว่า การป่วยระลอกนี้ ผู้ป่วยอาการน้อยหรือไม่มีอาการ พอจะเดินไปเดินมาได้ ยังแข็งแรงอยู่มีจำนวนมากกว่าระลอกก่อน ก็ขอให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ซึ่งข้อมูลนี้จะโยงไปถึงการจัดสรรโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel ตามสถานการณ์และอัตราการป่วยหนัก


หากมองจากกราฟเพียง 1 สัปดาห์ยอดติดเชื้อเพิ่มจาก 31,000 คน เป็นแตะ 40,000 คน โดยผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาล 11,915 คน ถือเป็นนิวไฮในไทย การระบาดกระจายมากขึ้นกว่าเดิม แต่ความรุนแรงยังไม่มากเท่าเดิม

เมื่อมองรายจังหวัดของ กทม.ยังพบผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง วันนี้เพิ่มขึ้น 279 คน รวมสะสม 2,976 คน ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ต้องเร่งประสานดูแลเตียงรองรับผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ก็เริ่มลดลงแล้ว

"งานศพ - พิธีกรรมศาสนา" ยังจัดได้

นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศข้อกำหนดแล้วเมื่อวานนี้ หลายฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งเอกชนและภาครัฐ โดย ศบค.แปลงจากคำว่าเคอร์ฟิวมาเป็นมาตรการแทน ยืนยันไม่มีเคอร์ฟิว เพราะเคอร์ฟิวต้องห้ามประชาชนออกจากบ้านนั้นจะเข้มงวดเกินไป จึงแปลงออกมาเป็นคำว่า "จำกัดที่หมาย และลดการเคลื่อนย้าย"

สำหรับมาตรการที่ออกมานั้น หวังว่าตั้งแต่ 00.01 น. วันที่ 18 เม.ย.นี้ จะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง เปิดได้ 04.00 - 23.00 น. ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด


ส่วนกรณีงานประกอบพิธีการทางศาสนา หรืองานศพ ขอให้เจ้าภาพเว้นระยะห่าง ไม่ได้เป็นข้อห้าม เพราะห้ามเพียงงานรื่นเริงสังสรรค์เท่านั้น ขณะที่เรื่อง Work From Home ขอความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ต้องบริการประชาชนโดยไม่บกพร่องและไม่กระทบต่อราชการแผ่นดิน

ส่วนกรณีให้อำนาจผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดสั่งปิดสถานที่หรือหยุดกิจกรรม/กิจการนั้น ย้ำว่าไม่ใช่เคอร์ฟิว เพราะอำนาจในการสั่งเคอร์ฟิวเป็นของ ผอ.ศบค. คือ นายกรัฐมนตรีเท่านั้น

รพ.สนาม คำตอบผู้ป่วยอาการน้อย - ไร้อาการ

นพ.ทวีศิลป์ ระบุอีกว่า สถานการณ์แพร่ระบาดในตอนนี้มีผู้ป่วยไม่มีอาการและอาการน้อยมาก ดังนั้น โรงพยาบาลสนามจึงเป็นคำตอบ ซึ่งไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด โรงพยาบาลสนามที่ จ.เชียงใหม่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำได้ ส่วนผู้ป่วยบางส่วนก็ชอบที่จะได้พบปะกับคนอื่น ดังนั้น ขอความร่วมมือด้วย

ไม่ใช่ป่วย COVID-19 แล้วทุกคนจะไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนหรู ๆ อย่างเดียว ขอให้เข้าใจการทำงานและเข้าใจทีมแพทย์ที่ต้องทำงานอย่างหนักด้วย


ส่วนสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลก ติดเชื้อแล้ว 140 ล้านคน รักษาหาย 119 ล้านคน เสียชีวิตแตะ 3 ล้านเป็นวันแรก โดยสหรัฐฯ ยังมีผู้ติดเชื้อสะสมมากสุด 32 ล้านคน รองลงมาคือ อินเดีย ซึ่งน่าจับตา มีผู้ติดเชื้อวันเดียว 233,943 คน รวมสะสม 14 ล้านคนแล้ว ส่วนไทยอยู่อันดับ 110 ของโลก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง