กทม.ออก 8 มาตรการคุมเข้มโควิด "สถานบันเทิง" ปิดต่อ 14 วัน

สังคม
17 เม.ย. 64
13:05
6,705
Logo Thai PBS
กทม.ออก 8 มาตรการคุมเข้มโควิด "สถานบันเทิง" ปิดต่อ 14 วัน
เช็ก! 9 มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ กทม. "สถานบันเทิง - คาราโอเกะ - อาบอบนวด" ปิดต่อ 14 วัน เริ่ม 18 เม.ย. 64 ตั้งแต่เวลา 00.01 น.

วันนี้ (17 เม.ย.2564) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 9/2564 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค.ซึ่งได้ประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และปฏิบัติมาตรการต่าง ๆไม่น้อยกว่า 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2564 เป็นต้นไป ดังนี้ 


ร้านอาหารเปิดให้นั่งทานอาหารไม่เกิน 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 น.ในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่น โดยงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน ส่วนสถานบันเทิงผับ บาร์คาราโอเกะ อาบอบนวดปิดให้บริการ 

สำหรับศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการถึง 21.00 น. (งดให้บริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก) ร้านสะดวกซื้อเปิดได้เวลา 04.00 - 23.00 น. ส่วนสถานศึกษาทุกระดับและสถาบันกวดวิชางดการเรียนการสอนในห้องเรียน สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ฟิตเนสและยิมเปิดให้บริการถึง 21.00 น.

นอกจากนี้ ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน 50 คน และกิจกรรมที่เป็นงานเลี้ยง งานสังสรรค์ หากเกิน 50 คน ต้องขออนุญาตสำนักงานเขตพื้นที่ก่อน และจะได้เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้สถานประกอบการ บริษัทสลับวันทำงาน เหลื่อมเวลาทำงานหรือใช้มาตรการ Work From Home ให้ได้มากที่สุด

 
ขณะที่ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ล่าสุด ยังพบผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง วันนี้เพิ่มขึ้น 279 คน รวมสะสม 2,976 คน  ส่วนการดำเนินการให้บริการวัคซีน COVID-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 16 เม.ย. 2564 เวลา 18.00 น. ยอดผู้รับวัคซีนเพิ่ม 6,496 โดส รวมผู้รับวัคซีนสะสม 130,774 โดส

กทม.รับผู้ป่วย COVID-19 รักษาแล้วเกือบ 5 พันคน

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผู้ป่วย COVID-19 ที่มีจำนวนมากขึ้น โดยกรุงเทพมหานครสามารถรับผู้ป่วย COVID-19 ได้ 9,183 คน มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแล้ว 4,939 คน และรองรับได้อีก 4,244 คน แบ่งแผนการรับผู้ป่วยออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

  1. การเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครให้รองรับผู้ป่วยโควิดให้มากขึ้น ทั้งในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด

  2. การเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการ (Hospitel) สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ให้รักษาตัวในโรงแรมที่จัดหาไว้ให้

  3. จัดทำโรงพยาบาลสนามเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับผู้ป่วย โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้พร้อมรองรับ ณ โรงพยาบาลเอราวัณ 1 (ศูนย์เฉลิมพระเกียรติฯบางบอน) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 200 เตียง และโรงพยาบาลเอราวัณ 2 (ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนาหนองจอก) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 350 เตียง


นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลกองทัพและโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยที่ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก ในส่วนของความล่าช้าในการรับ-ส่งผู้ป่วย ได้เร่งเพิ่มศักยภาพการทำงานโดยให้ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักเทศกิจและ 50 สำนักงานเขตจัดรถร่วมให้บริการรับส่งผู้ป่วยที่ตกค้างเพื่อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็วและปลอดภัยต่อไป


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราชกิจจาฯ ประกาศ 9 มาตรการ ป้องกันแพร่ระบาด COVID-19

เทียบมาตรการ COVID-19 ระลอกแรก-ระลอกใหม่

เปิด 9 มาตรการหลัง "ไม่เคอร์ฟิว-ไม่ล็อกดาวน์" เริ่มใช้ 18 เม.ย.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง