โควิดเชียงใหม่เพิ่ม 237 คน พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่

สังคม
22 เม.ย. 64
20:11
2,119
Logo Thai PBS
โควิดเชียงใหม่เพิ่ม 237 คน พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่
เชียงใหม่ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม 237 คน พบ 3 คลัสเตอร์ใหม่ เรือนจำ ศูนย์เด็กเล็ก และสถานปฏิบัติธรรม ย้ำเตือนประชาชนสวมหน้ากากอนามัย 100%

วันนี้ (22 เม.ย. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค COVID-19 จ.เชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดว่า เกิดจากการตรวจเชิงรุก ทำให้พบการระบาดใน 3 คลัสเตอร์ใหม่ คือ เรือนจำ ศูนย์เด็กเล็ก และสถานปฏิบัติธรรม โดยลักษณะของการติดเชื้อในระลอกนี้พบว่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มในการทำกิจกรรม การสังสรรค์ และการพบปะกันในโอกาสต่าง ๆ โดยละเลยมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะการไม่สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง ขณะทำกิจกรรมร่วมกัน จึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นสำคัญ และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ซ้ำรอย

คลัสเตอร์ใหม่​ เรือนจำ​ ศูนย์เด็กเล็ก​ สถานปฏิบัติธรรม

ด้าน นายทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 237 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมในระลอกเดือน เม.ย. ของ จ.เชียงใหม่ อยู่ที่ 2,819 คน ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 2,597 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันนี้มาจาก 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ คลัสเตอร์เรือนจำกลาง อ.แม่แตง จำนวน 37 คน ซึ่งไม่ได้เป็นการระบาดในแดนผู้ต้องขัง แต่เป็นผู้ต้องขังแรกรับ ที่พบจากการตรวจในระหว่างกักตัวตามมาตรการ 14 วัน ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้ง 37 คน ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่

สำหรับการพบผู้ติดเชื้อจากศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ พบว่าเกิดจากคุณครูที่ติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งจากการตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมด 120 คน พบว่ามีเด็กในศูนย์เด็กเล็กอายุ 4-6 ปี ติดเชื้อทั้งหมด 14 คน และอีก 2 คน เป็นผู้ใหญ่

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลนครพิงค์และโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ร่วมกับทาง อ.ดอยละเก็ด จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจขึ้น เพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้

ด้านคลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรม ที่ ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ พบว่าเกิดขึ้นจากการร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมและทานอาหารร่วมกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์จำนวน 44 คน ซึ่งจากการตรวจหาเชื้อในกลุ่มดังกล่าวพบว่ามีผู้ร่วมกิจกรรมตืดเชื้อ 23 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อของ จ.เชียงใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 21 คน และอีก 2 คน เป็นผู้ติดเชื้อใน จ.ลำพูน โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 21 คน ได้ถูกนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยแม่โจ้แล้ว

สำหรับมาตรการการค้นหาเชิงรุกด้วยการสุ่มตรวจกลุ่มตัวอย่างตามสถานที่สาธารณะสำคัญ ขณะนี้ทำการตรวจแล้วทั้งหมด 2,133 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 1.59 จากจำนวนทั้งหมดที่สุ่มตรวจ

พบผู้ติดเชื้อกระจายต่างอำเภอมากขึ้น

แนวโน้มสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 จ.เชียงใหม่ พบว่ามีการแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างอำเภอมากขึ้น เห็นได้จากยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นของเขตต่างอำเภอ และจากสถิติพบว่ามีการแพร่ระบาดในกลุ่มครอบครัวเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 15.1 ขณะที่การระบาดกลุ่มสถานบันเทิงลดน้อยลงจากมาตรการปิดสถานบันเทิงและสถานบริการ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดนั้นอยู่ใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น

จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนรักษามาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด และต้องสวมหน้ากากอนามัย 100% รักษาระยะห่าง ล้างมือให้บ่อยครั้ง สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ และงดงานเลี้ยงสังสรรค์ การรวมกลุ่ม เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดในคลัสเตอร์ล่าสุด

ทั้งนี้หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลรัฐและเอกชน รวมถึงศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ

รพ.สนาม ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 1,016 คน

นพ.อำพร เอี่ยมศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่วาง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ ว่าขณะนี้มียอดผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 1,016 คน โดยในวันนี้ได้รับเข้ามาจำนวน 33 คน และมีผู้ป่วยที่ได้จำหน่ายออกไปจำนวน 171 คน โดยผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้จะได้รับใบรับรองแพทย์ พร้อมเอกสารคำแนะนำในการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเมื่อต้องกลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัวและชุมชน

ทั้งนี้ทางการแพทย์ถือว่าบุคคลที่ผ่านการรักษาแล้ว เป็นผู้ที่ปลอดเชื้อและสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ตามปกติ สำหรับเสื้อผ้าของใช้ของผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว จะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อก่อนที่จะให้นำออกจากโรงพยาบาลสนาม และเมื่อกลับถึงบ้านจะมีการทำการซักอีกครั้ง และสามารถนำกลับใช้ใหม่ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง